วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กาฝากชีวิต


ที่บ้านผมมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ผมรักมาก แต่ต้นไม้ต้นนี้มักเจอกับศัตรูคุกคามอยู่บ่อยครั้ง ศัตรูที่ผมพูดนี้ไม่ใช่หนอนหรือแมลงหรือโรค แต่มันคือ กาฝาก ผมต้องช่วยจัดการเอากาฝากออกบ่อยครั้ง กาฝากเปรียบได้กับวัชพืชในแปลงผักที่คอยแย่งอาหารพืชผักที่เราปลูกไว้ กาฝากเริ่มต้นจากชีวิตในเมล็ดเล็กๆ จากพันธุ์ไม้อื่นมาเกาะติดต้นไม้ที่เราปลูกไว้จากพาหะต่างๆ เช่น นก กระรอก ฯลฯ จากชีวิตเล็กๆ มันค่อยๆ โตขึ้นจากน้ำเลี้ยงต้นไม้ที่ปลูกไว้ ต่อมาไม่นานชีวิตเล็กๆ จะโตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหมือนกิ่งหนึ่งในต้นนั้น ถ้ากาฝากมีมากและมีอยู่นานต้นไม้ต้นนั้นจะไม่เกิดผล ไม่โต และทำให้ต้นไม้ดังกล่าวสูญเสียความงดงาม ผมต้องขอให้คนมาช่วยตัดกิ่งกาฝากออกจากต้นบ่อยๆ เมื่อกิ่งกาฝากถูกตัดออกไปต้นไม้ของผมดูสวยงามขึ้น กิ่งก้าน ผลิใบ ผลิดอกออกผลดีขึ้น ชีวิตของคุณและผมคงไม่ผิดอะไรกับต้นไม้บ้านของผมนั้น เราต้องเผชิญกับศัตรูชีวิตที่มีจุดเริ่มต้นแทบจะไม่รู้ตัวแต่เมื่อรู้ตัวว่ามีกาฝากมันก็เกือบจะสายไป หรืออาจจะสายไปเสียแล้ว กาฝากที่ผมพูดเป็นกาฝากชีวิต ที่มันเริ่มต้นก่อตัวจากความคิดไม่ดีที่ตัวเราประมาท คิดว่าไม่เป็นไร กำจัดมันเมื่อใดก็ได้และแล้วเราก็ลืมมันไป ขณะที่เราคิดว่าเราลืมไปแล้วนั้นมันค่อยๆ หยั่งรากและเกิดแขนงในตัวเรา จนมันเติบใหญ่เราไม่อาจกำจัดมันให้ออกไปจากชีวิตเราได้ ความคิดไม่ดีอาจเป็นความอิจฉาริษยา อาจเป็นรากขมขื่น อาจเป็นความคิดโลภอยากได้ของ อยากภริยาหญิงอื่นนอกเหนือภรรยาของตน จริงอยู่ความคิดดังกล่าวย่อมผลุดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้เกิดความคิดขึ้นได้กับทุกคน การที่ความคิดผลุดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นในตัวของมันไม่ใช่เป็นความผิดหรือความบาป มันไม่ใช่อันตรายถึงชีวิต แต่ถ้าเราบ่มความคิด หรือเต็มไปอยู่ในความทรงจำ ความคิดดังกล่าวจะค่อยๆ หยั่งรากและเติบโตกลายเป็นความรู้สึกที่รุนแรงแล้วแผลงฤทธิ์ออกมาในรูปของการกระทำ ขอให้เราจำไว้เสมอว่า นกบินข้ามศีรษะ ถือว่าเป็นเรื่องปกติและไม่อาจห้ามได้ แต่คุณสามารถไล่นก ปฏิเสธไม่ให้มันทำรังบนศีรษะเรา ฉันใดก็ฉันนั้น ความคิดไม่ดี อาจผลุดขึ้นหรือกระตุ้นให้เกิดขึ้น มันเรื่องห้ามไม่ได้ แต่คุณและผมต้องห้ามมันไม่ให้มันมาหยั่งรากทำรังในชีวิตของเรา จงระวังความคิดที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้นต้องรู้เท่าทันดับความคิดนั้นเสีย ถ้าใครรู้สึกว่าตัวเองมีกาฝากแห่งความคิดที่ไม่ดีกำลังเติบโตขึ้นในชีวิตเป็นเหตุให้คุณธรรมในชีวิตอับเฉาลง จงอย่ารีรอและมัวเสียดายจงตัดมันทิ้งเสีย ถ้าคุณปล่อยให้กาฝากมีชีวิต คุณเองก็จะตาย จงเลือกเอาถ้าคุณตัดเองไม่ได้ จงแสวงหาพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงทราบวิธีที่จะกำจัดกาฝากชีวิต ให้หมดจากชีวิตเรา

ขยัน แต่......

ถ้าเราเห็นใครที่ทำงานแข็งขัน เอาการเอางาน และสม่ำเสมอ นั่นคือลักษณะของคนขยันซึ่งตรงกันข้ามกับคนเกียจคร้าน เขาจะทำตรงกันข้ามกับลักษณะที่กล่าวมาแล้ว ความขยันในตัวคนเป็นต้นทุนอันสำคัญประการหนึ่งที่จะนำความสำเร็จมาสู่ชีวิต ขณะที่ความเกียจคร้านนำมาซึ่งความหายนะและขัดสน ความขยันหรือความเกียจคร้านไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมพันธุ์ หรือเรื่องเวรเรื่องกรรม แต่เป็นพฤติกรรมที่ได้มาจากการเรียนรู้และการตัดสินใจของปัจเจกบุคคล แต่ละคนสามารถเลือกที่จะเป็นคนเกียจคร้านหรือเป็นคนขยันได้ บางคนโทษสภาพแวดล้อม โทษอากาศ โทษบุคคลรอบข้าง ฯลฯ เพื่อจะสร้างเหตุผลสนับสนุนตนเองที่เขาขี้เกียจนั้นมีเหตุผลพอรับฟังได้ คนขยันไม่มองดูท้องฟ้า ฝนจะตก แดดจะร้อนหรือหนาว เขาตื่นแต่เช้า ขมีขมันตั้งใจทำงานให้ได้ผลสูงสุดกับเวลาและแรงงานที่เสียไป ความขยันหมั่นเพียรอยู่เคียงคู่กับบุคคลที่มีวินัยในชีวิต ไม่ใช่คนขยันจะรวยทุกคน แต่ที่แน่นอนคนขยันหางานทำไม่มีวันอด และอนาคตไม่มีวันดับ แต่สิ่งที่คนขยันจะต้องระมัดระวังคือจะต้องแยกให้ออกระหว่างความขยัน ความกระตือรือร้น การเอาการเอางาน กับ ความรีบร้อนซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า Haste ในพระธรรมสุภาษิตซึ่งถือว่าเป็นหนังสือแห่งสติปัญญากล่าวว่า “แผนงานของคนขยันนำมาซึ่งผลกำไร เช่นเดียวกับที่ ความรีบร้อนนำมาซึ่งความขัดสน” สุภาษิต 21:5 คนขยันที่ชาญฉลาดเป็นคนมีความสุขุมไม่ด่วนตัดสินใจด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ของตนเองหรืออารมณ์ของกระแสสังคม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ถ้าเรื่องใดเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญจะต้องรีบตัดสินใจ แต่มันตรงกันข้ามยิ่งเรื่องใหญ่และสำคัญมากเท่าใด เราจะต้องไม่รีบร้อนในการตัดสินใจทำเพราะความผิดพลาดหมายถึงความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เราอยู่ในยุคที่ต้องช่วงชิงโอกาส เรามีคนมากมายที่เสนอตัวชี้นำโอกาสที่ดูเหมือนดีสุดยอด คำท้าชวนดูจะแตะใจและเคลื่อนความรู้สึก แต่ช้าก่อนจงมีสติ มีภาษิตสอนใจว่า “วัดผ้าสองครั้งแล้วตัดดีกว่าวัดครั้งเดียวแล้วตัดสองครั้ง” ภาษิตชาวรัสเซียพูดว่า “ก่อนคุณจะกระโดดลงสระขอไปหยั่งเท้าดูก่อนว่ามันตื้นหรือลึกขนาดไหน” จงเป็นคนขยันแต่อย่าประมาท อย่าเร่งรีบ จงมีสติ

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2561

วิธีแก้รอยฟกช้ำ รักษาอย่างไรให้หายเร็วที่สุด

เคยไหมที่บางครั้งอยู่ๆ ผิวหนังก็มีรอยฟกช้ำแบบไม่รู้ตัว อาจเกิดจากความไม่ตั้งใจ เดินไปชนโต๊ะหรือเก้าอี้ ทำให้มีรอยช้ำที่ศอกบ้าง เข่าบ้าง ถ้าเผลอไปโดนก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ แถมเห็นม่วงๆ มาแต่ไกล คุณอย่ากังวลไปเลย รอยฟกช้ำนี้จะหายไปเอง แต่ใช้เวลาค่อยข้างนาน จะเอารองพื้นทาก็ปิดไม่มิด ถ้าวันนั้นต้องไปออกงานแล้วด้วย จะทำยังไงดี? อยากรู้วิธีแก้ไข ฟังทางนี้เลย......

วิธีรักษารอยฟกช้ำอย่างเร่งด่วน

  1. ใช้น้ำแข็งประคบ เอาง่าย ๆ แบบนี้ล่ะ น้ำแข็งจะช่วยให้เส้นเลือดบริเวณที่ฟกช้ำหดตัว รอยจะไม่ขยายขึ้น ถือเป็นวิธีจำกัดรอยเอาไว้ไม่ให้แผ่กว้างให้ดูน่าเกลียดนั่นเอง หรือเราจะเปลี่ยนจากน้ำแข็งเป็นเจลทำความเย็นก็ได้ เลือกเอาที่เราสะดวกค่ะ
  2. ประคบทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาทีต่อชั่วโมง
  3. หลังจาก 24 ชั่วโมงแล้วให้ประคบร้อน เพื่อทำให้เลือดบริเวณนั้นไหลเวียนได้ดีขึ้น
  4. การประคบร้อนสามารถใช้ถุงน้ำร้อนหรือขวดบรรจุน้ำร้อนที่พันด้วยผ้า เพื่อป้องกันความร้อนที่ร้อนจนเกินไปมาประคบ
  5. ให้ประคบร้อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
  6. หากรอยฟกช้ำเกิดขึ้นบริเวณแขนหรือขา ให้ยกแขนหรือขาให้สูงเพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก แต่ถ้าเกิดบริเวณลำตัวล่ะก็ ไม่ต้องยกก็ได้ค่ะ จะลำบากไปเนอะ

การดูแลรักษารอยฟกช้ำเพิ่มเติม เราควรฟื้นฟูร่างกายเพื่อให้รอยฟกช้ำหายเร็วขึ้น หลังจากที่เราทำตามขั้นตอนด้านบนแล้วให้ปฏิบัติตามนี้ด้วยนะคะ

  1. ทานอาหารที่มีวิตามินซีและฟลาโวนอยด์สูง วิตามินพวกนี้ช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น เราจะพบวิตามินเหล่านี้ได้ในอาหารจำพวก ผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว พริกหยวก สับปะรดและพรุน นั่นเอง
  2. ขยายหลอดเลือดด้วยการทาเจลอาร์นิก้าหรือเจลว่านหางจระเข้ เราสามารถหาซื้อเจลพวกนี้ได้ตามร้านขายยาทั่วไปเลยค่ะ
  3. ใช้ลูกประคบ เพื่อแก้รอยฟกช้ำได้ด้วยค่ะ ด้วยภูมิปัญญาอันล้ำค่าของไทย โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาอีกเช่นกัน แต่ถ้าหากต้องการทำเอง เราก็มีให้

วิธีทำลูกประคบสมุนไพรทำเองได้ง่ายๆ

สูตรใบรางจืด ใช้ใบรางจืด 1 กำมือ ล้างและนำมาตำให้ละเอียดผสมกาบูร 1 หยิบมือ ห่อด้วยผ้าขาวบาง นึ่งให้อุ่นก่อนนำมาใช้งาน สูตรนี้เป็นสูตรเย็น เหมาะสำหรับแผลฟกช้ำที่มีอาการปวดบวมอักเสบ

สูตรใบขิง ใช้ใบขิง 1 กำมือ ล้างและนำมาตำให้ละเอียดผสมกับกาบูร 1 หยิบมือ ห่อด้วยผ้าขาวบาง นึ่งให้อุ่นก่อนนำมาใช้งาน สูตรนี้เป็นสูตรร้อนใช้แก้อาการฟกช้ำที่ไม่มีอาการปวดบวมร่วมด้วย

จากนั้นนำลูกประคบที่ได้ ไปประคบที่รอยฟกช้ำประมาณ 10 นาที เช้า – เย็นจนกว่ารอยฟกช้ำจะหายไป

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

วิธีขจัดรังแคบนศรีษะอย่างได้ผล

ปัญหารังแคที่พบส่วนมากจะมี 2 ชนิด คือ รังแคเปียก และรังแคแห้ง และเจ้ารังแคทั้งสองชนิดนี้ก็เป็นปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนเกิดความกังวลใจอย่างมาก เพราะรังแคสามารถมองเห็นได้ชัดจนทำให้ความเสียความมั่นใจและเมื่อเกาหัวเพื่อลดอาการคันจากรังแค ก็ยังทำให้เสียบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก นอกจากรังแคยังเป็นสาเหตุให้เกิดผมร่วงอีกด้วย

วันนี้ทางเราจึงนำวิธีการขจัดรังแคที่รบกวนใจใครหลายๆคนมาฝาก ดังนี้

1.ใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูที่มีสารในการขจัดรังแค ควรเลือกซื้อแชมพูที่มีตัวยารักษาและขจัดรังแคชนิดใดชนิดหนึ่งดังต่อไปนี้ เช่น ซิงค์ไพริไทออน, ซีลีเนี่ยมซัลไฟด์, คีโทโคนาโซล, พรอคโทนโอลา เพื่อช่วยให้การขจัดรังแคมีประสิทธิภาพและหายได้เร็วมากขึ้น

2.สระผมให้ถูกวิธี รู้หรือไม่ว่าการสระผมทุกวันเป็นสาเหตุให้ผมมันและเกิดเป็นรังแค ดังนั้นควรสระผมแค่สัปดาห์ละ 3-5 ครั้งเท่านั้นและในขณะสระผมควรนวดศีรษะ ให้ทั่วและทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกให้สะอาด หลังจากนั้นให้เช็ดผมให้แห้ง และที่สำคัญไม่ห้ามนอนในขณะผมเปียกโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
3.ทำความสะอาดเครื่องใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นแหล่งหมกหมม เชื้อราและเชื้อโรคทั้งหลายที่ก่อให้เกิดรังแคโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่ควรไม่ใช้สิ่งของเหล่านี้ร่วมกับผู้อื่นและควรทำความสะอาดเครื่องใช้ส่วนตัว อาทิเช่น หวี ผ้าเช็ดผม ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี
เพราะปัญหารังแคส่วนมากมีสาเหตุมาจากการดูแลสุขภาพผมและการใช้เครื่องใช้ส่วนตัว ดังนั้นแค่เพียงท่านรักษาความสะอาดใช้แชมพูที่มีคุณภาพสระผมและดูแลสุขภาพผมตามวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ ปัญหารังแคบนหนังศีรษะเหล่านี้ก็จะหมดไป

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สิ่งที่เรามองข้าม......

ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความยับยั้งใจน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ตระกูลของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพอนามัยกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความริษยามากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากลำบาก...
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง

ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น...จากนี้ไป...ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ "โอกาสที่พิเศษสุด" แล้ว

จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ...อยาก....
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น...

กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้

เอาคำพูดที่ว่า...สักวันหนึ่ง...ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น

ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย
เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
และเวลานี้...

ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาที่จะ copy ข้อความนี้ไปให้คนที่คุณรักอ่าน…… แล้วคิดว่า….สักวันหนึ่ง………..ค่อยส่ง.. จงอย่าลืมคิดว่า..สักวันหนึ่ง...วันนั้น คุณอาจไม่มีโอกาสมานั่งตรงนี้เพื่อทำอย่างที่คุณต้องการอีกก็ได้

Credit : http://happyhappiness.monkiezgrove.com/

8 วิธีช่วยรักษาแผลจากรองเท้ากัด

รองเท้ากัดเป็นปัญหาที่พบบ่อยและเป็นความทุกข์ใจเพราะส่วนมาก  เพราะมักจะเป็นรองเท้าคู่ใหม่ที่เราชอบหรือว่าพึ่งซื้อมานั้นกลับทำให้เท้าเราเจ็บ  ในบางครั้งการที่รองเท้ากัดนั้นจะทำให้เกิดเป็นแผลที่มีขนาดใหญ่หากมีเชื้อโรคเข้าไปก็จะทำให้ติดเชื้อและอักเสบตามมาได้และเมื่อเป็นแผลก็ไม่สามารถใส่รองเท้าอื่นได้  ปัญหานี้เจอกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะว่าผู้หญิงนั้นมักเปลี่ยนรองเท้าบ่อยและยังเป็นรองเท้าส้นสูงอีกด้วย  แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วแผลที่เป็นจะหายช้าเราจึงมีวิธีในการรักษาด้วยธรรมชาติทำให้แผลที่เป็นนั้นหายเร็วได้
                     1.น้ำมันมะพร้าว  น้ำมันมะพร้าวที่ขายตามท้องตลาดช่วยลดอาการรองเท้ากัดได้ด้วย   น้ำมันในมะพร้าวจะรักษาผิวของเรา  และจะช่วยลดอาการอักเสบของแผลทำให้ลดอาการปวดแสบปวดร้อนของแผลรองเท้ากัดได้   โดยการนำน้ำมันมะพร้าวผสมกับการบูรใช้ทาที่บริเวณรองเท้ากัดวันละ 2 ครั้ง  จะทำให้อาการเจ็บปวดลดลงได้
                    2.น้ำผึ้ง  น้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการรักษาแผลที่เกิดจากร้องเท้ากัดได้สามารถสมานแผลที่ซ้ำหรือว่าลอกได้ดี  ลดอาการเจ็บและแสบได้ควรใช้น้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติจะดีที่สุด  ใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำมันงาอย่างละส่วนให้เท่ากันใช้ทาบริเวณที่รองเท้ากัดจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำอุ่น  ทำวันละสองครั้งจนกว่าจะหาย  หรือใช้น้ำผึ้งอย่างเดียวทาวันละ 3 ครั้ง
                   3.แป้งข้าวจ้าว  แป้งข้าวจ้าวสามารถที่จะขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ง่าย  ซึ่งทำความสะอาดและเป็นการผลัดเซลล์ที่แผลได้ดี  ผสมน้ำกับแป้งข้าวจ้าวให้พอกบริเวณที่รองเท้ากัดโดยการพอกเป็นเวลา 15 นาทีหรือว่าจนกว่าแผลจะแห้ง  แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นทำซ้ำวันละ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์จนกว่าแผลจะหาย
                  4.ว่านหางจระเข้  มีคุณสมบัติบรรเทาอาการอักแสบและการปวดแสบปวดร้อนได้เป็นอย่างดี  สามารถรักษาแผลที่เกิดจากรองเท้ากัดได้อย่างรวดเร็ว  นอกจากนั้นยังช่วยไม่ให้เกิดอาการติดเชื้ออีกด้วย  ใช้เจลว่านหางจระเข้ทางบริเวณที่รองเท้ากัดหรือว่าใช้ว่านหางจระเข้ที่สดๆทาไว้จนกว่าจะเหนี่ยวแล้วรอให้แห้ง  ล้างออกด้วยน้ำอุ่น  ทำซ้ำวันละ 3 – 4 ครั้ง
                 5.น้ำแข็ง  น้ำแข็งรักษาอาการปวดแสบปวดร้อนได้ดี  นำน้ำแข็งมางานไว้บริเวณที่ถูกรองเท้ากัดโดยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที  สามารถที่จะทำได้วันละหลายครั้งตามต้องการ
                  6.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สามารถที่จะฆ่าเชื้อโรคได้และลดอาการระคายเคืองลดอาการติดเชื้อได้อีกด้วย  ใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หยดลงไปที่สำลีในปริมาณที่เล็กน้อย  ถูบนบริเวณที่รองเท้ากัดให้ทาบ่อยๆต่อวัน
                 7.ยาสีฟัน  ยาสีฟันสามารถที่จะทำให้แผลที่โดนรองเท้ากัดนั้นแห้งได้ง่าย  เพราะยาสีฟันมีส่วนผสมของสารที่ใช้ลดอาการปวดแสบปวดร้อนได้และทำให้แผลแห้ง  ใช้เพียงเล็กน้อยทาที่บาดแผลทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง  ทำความสะอาดด้วยการเช็ดออกใช้วาสลีนทาอีกครั้ง ทำทุกวันจนกว่าแผลจะหาย
                8.มะนาว  มะนาวที่มีรสเปรี้ยวตามธรรมชาติมียาฆ่าเชื้อโรคและลดอาการคัน  รักษาในเรื่องของแผลเป็นได้  ใช้สำลีโดยการบีบมะนาวลงไปในสำลีก่อนแล้วจึงค่อยนำไปเช็ดที่แผล   รอให้แห้งแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นใช้วิธีการนี้วันละ 2 – 3 ครั้ง
เคล็ดลับในการป้องกันรองเท้ากัด
1.เลือกรองเท้าคู่ใหม่ให้เลือกรองเท้าที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือว่าน้ำหนักให้พอดี  สวมใส่สบาย
2.ควรเลือกรองเท้าที่ใส่แล้วพอดีไม่คับหรือว่าหลวมไป
3.ก่อนที่จะแน่ใจการเลือกรองเท้าควรเลือกแล้วทดลองเดินไปรอบๆ  เพื่อดูความพอดีในการส่วนใส่ให้เหมาะสม
4.ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวในบริเวณที่เกิดรองเท้ากัด  โดยทาที่รองเท้า 3 วันติดต่อกันก่อนที่เราจะน้ำมาใส่
5.หาแผลที่รองเท้ากัดที่มีขนาดใหญ่หรือว่าหายช้าควรไปพบแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

รัก 7 แบบที่ไม่ควรคาดหวัง

หนุ่มสาวสมัยนี้เจอกันแป๊ปเดียวไฟฟ้าก็ลัดวงจรซะแล้ว  แต่ทุกครั้งที่สปาร์คกัน  ทุกคนก็คงหวังว่ารักนั้นจะอยู่ยั้งยืนยงอมตะนิรันดร์กาล  แต่สำหรับความรัก 7 แบบนี้....ขอเตือนว่าอย่าหวังมากจะดีกว่า ไปดูกันเลยว่ารักแบบไหนบ้างที่ไม่ควรหวัง!!!!!!

1. รักเพราะเหงา
                ความรักแบบนี้จะเกิดกับคนที่ประกาศหาแฟนมาชาติกว่าแล้วก้ยังไม่มีใครยอมเสี่ยงตามมาเป้นหวานใจเสียที  เลยออกแนวเศร้า  เหงา  เว็งทีนี้ล่ะพอมีใครผ่านมาก้คว้าเรียบ  ขอให้เป็นเพสตรงข้ามเป็นพอ  แต่พอคบกันไปสักพัก  ความเหงาหายไปหุตาพลอยสว่าง  ถึงได้เห็นว่าอีตาอ้วนดำคนนี้ยังห่างไกลสเป็คเราหลายขุมนัก  แล้วมันเรื่องอะไรคนสวยเลือกได้ (แต่ไม่มีคนมาให้เลือก)  อย่างชั้นจะมาคบนายให้เสียเวลายะ  ว่าแล้วก้บอกเลิกวะเลย  จบข่าว!
2. รักทางเน็ต
                ก็ในเน็ตมีใครเค้าบอกความจริงกันบ้างล่ะ  ว่าชีวิตชั้นผ่านผุ้ชายมา 17 คนแล้ว  เป็นเกย์ไปซะ 7 ติดเอส์ไปวะ 3 แวทเข้าไปเถอะ  รับรองคุณจะได้เจอแต่พวกรูปหล่อพ่อรวย  สวยเหมือนนางงามจักวาลทั้งนั้น  ขนาดภาพยังเอารูปเพื่อนมาลง  ไม่ก้เป็นภาพพรีทัชบลสิวลบปานดำ  เติมปากให้อิ่มทำตาให้โต  เปลี่ยนทรงผมให้เก๋  เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา  เอ๊ะ! นี่มันเปลี่ยนทั้งหัวเลยนี่หว่า  แซทกันอยู่สามเดือน  พอถึงเวลานัดมาเจอตัวจริงแทบวิ่งหนีป่าราบ  แล้วจะไม่ให้เลิกได้ไงล่ะ
3. รักผัวเขา
                ตอนเจอกันใหม่ๆ  ในร้อยคนต้องมีซะ 80 ที่ไม่รู้ว่าหนุ่มหล่อคนนี้มีเจ้าของอยู่แล้ว(แต่ก้มีเหมือนกันที่รู้ทั้งรู้แต่ตูก็จเอา)  พอรู้ความจริง  แรกๆ  เราอาจจะยอมทนเป็นกีกได้เพราะคิดว่าเขาเลิอกกันเมื่อไหร่  ตำแหน่งตัวจริงคงไม่ไปไหนเสีย  แต่รอเท่าไหร่เบอร์หนึ่งก้แก่ง่ายตายช้าไม่เลิกรากับหวานในเสียที  แล้วมันเรื่องอะไรกิ๊กอย่างเราจะยอมทน  เพราะวัยสาวมันมีเวลาจำกัดขืนรอนานๆ  เดี๋ยวก้ได้ขึ้นคานกันพอดีสิ
4. รักโปรโมท
                ข้อนี้แต่ก่อนจำกัดอยู่ในวงการบันเทิง  ช่วงไหนหนังจะเข้าละครจะฉายก็เอาแล้ว  ต้องมีใครขึ้นมาทันที  พอละครจบรักก้จบตาม  แต่เดี๋ยวนี้รักโปรโมทกระจายไปทุกหย่อมหญ้า  โดยมากมักจะเป็นในหฒุ่คนกินแห้ว  แอบรักเขาเขาไม่สน  เลยต้องจัดฉาดเรียกเรทติ้งด้วยการเอาเพื่อนมาเล่นละครเป็นเพื่อนมาเล่นละครเป็นแฟน  พอเป้าหมายตกหลุมพรางหลวมตัวมาจีบแล้ว  ถึงเวลาไสหัวเพื่อนกลับไปเดินสะดิ้งดุ้งดิ้งคนเดียวเหมือนเดิม
5. รักที่เงิน
                คติประจำใจของชทรมกระสือมีอยู่ว่า  หนังหน้าแย่ไม่เป็นไร  ขอให้กระเป๋าตุงไว้ก่อน  เป็นที่มาของคู่กิ่งทองใบตำแยทั้งหลายที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ฝ่ายที่เงินมักจะหน้าตาพอดูได้ (ถ้าปิดไฟ)  ส่วนกระสือนักสูบสวยล้ำหล่อเลิศแต่จนสต่างค์  ความรักแบบนี้จะหมดอายุได้ในสองกรณีหนึ่งคือฝ่ายมีตังค์เกิดไม่สบาย  เป้นโรคขี้เบื่อ  ทนเห็นอะไรซ้ำวากไม่ได้ต้องเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ  ไม่ก็ในกรณีที่สองคือผ่ายมีเงินจับได้ว่าสาวสวยสูงเนไปเลี้ยงแฟนตัวจริง  ถ้าไม่เจอสองข้อนี้นิยามความรักฉบับสตอเบอแหลก็จะดำเนินต่อไปตราบนานเท่านาน
6. รักแบบกิ๊กๆ
                กฎข้อบังคมของกีกก็มีอยู่แล้วว่าห้ามผุกพัน  ห้ามดื๊อ  ห้ามยื้อ  ห้ามทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ  และกีกไม่ไช่ชู้  เมื่อไหร่แฟนรู้ต้องเลิก  นั้นรักแบบกีกๆ  จึงเป้นรักที่มาเร็วไปเร็วที่สุด  แฟนตัวจริงเดินเฉียดมาในระยะ 100 เมตร  กิ๊กก้เสียชีวิตไปวะแล้วเหลือแต่คนแปลกหน้า 2 คนเท่านั้นเอง
7. รักเพราะสปอตไลท์
                รักแบบนี้มักเกิดในแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี  พอโดนสปอตไลท์ส่องมาราศีก้จับให้ทุกคนกลายเป็นดัชช่บอยแอนด์เกิร์ลกันไปหมด  ไปฟ้าเลยลัดลงจรง่ายยักย้ายส่ายสะดพกไม่กี่เพลง  น้องก็โอเครับรักี่แล้ว  แต่พอรุ่งขึ้นเจอกันในแสงธรรมชาติ  หน้าที่เคยสวยใสทำไมมันดันมีแต่รอบสิวฝ้ากระครบเซ้ตหว่า  เมื่อความจริงเปิดเผยออกมา  ความหวังก็เลยสลายไปในบัดดล
                ที่มา : นิตยสาร SPICY

กาฝากชีวิต

ที่บ้านผมมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ผมรักมาก แต่ต้นไม้ต้นนี้มักเจอกับศัตรูคุกคามอยู่บ่อยครั้ง ศัตรูที่ผมพูดนี้ไม่ใช่หนอนหรือแมลงหรือโรค แต่มันคือ ...