วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

@@ รวมข้อคิดความรัก

คนรวยคือคนที่มีเงิน?
คนรวยคือคนที่มีเงิน
สามารถเลี้ยงดูตนเอง และพ่อแม่
ให้อยู่สบายได้
ไม่ใช่คนที่เอาเงินพ่อแม่
ที่หาอย่างลำบากมาใช้
แล้วบอกว่า.ตัวเองรวย



คบกับ คนเจ้าชู้
คบกับ คนเจ้าชู้
ถ้าไม่อยู่เป็น ของตาย
ก็เป็นได้แค่ ของเล่น



ของขวัญสำหรับผู้หญิง ก็คือ
ของขวัญสำหรับผู้หญิง ก็คือ
ผู้ชายดีๆ ซักคน
ส่วนของขวัญสำหรับผู้ชาย ก็คือ
ผู้หญิงที่ไม่ต้องดีมาก แต่..ขอหลายๆ คน

ของขวัญสำหรับช่างภาพหญิง ก็คือ
บอดี้และเลนดีๆพกสะดวก ซักตัว
ส่วนของขวัญสำหรับช่างภาพชาย ก็คือ
บอดี้ที่ไม่ต้องดีมาก แต่..ขอหลายๆ เลน



ขอโทษ ไม่ได้แปลว่า ผิด

"ขอโทษ ไม่ได้แปลว่า ผิด
หงุดหงิด ไม่ได้แปลว่า สงสัย
ไม่พูดไม่แคร์ ไม่ได้แปลว่า ไม่ใส่ใจ
และไอ้ที่บอกว่า.. ไม่เป็นไร
ก็เเค่อยากให้ อารมณ์ในใจ มันสงบลง!!!


อย่าปล่อยให้คนของหัวใจ มาทำร้ายคนปัจจุบันให้บอบช้ำ
อย่าปล่อยให้ คนของหัวใจ
มาทำร้ายคนปัจจุบัน ให้บอบช้ำ
อย่ามัวแต่ดูแลคนในความทรงจำ
จนเผลอเหยียบย่ำคนปัจจุบันของหัวใจ



ความรักเหมือนน้ำเปล่า
ความรักเหมือนน้ำเปล่า ไม่มีรสชาติ แต่ขาดไม่ได้


ผู้ชายที่รักจริง จะเห็นหัวใจฝ่ายหญิง
ผู้ชายที่รักจริง
จะเห็นหัวใจฝ่ายหญิง โดยไม่จำเป็นต้องปลดตะขอ ยกทรง



ผู้ชาย สามารถรัก ผู้หญิงได้เป็นล้านคน
ผู้ชาย สามารถรัก ผู้หญิงได้เป็นล้านคน
แต่จะมีซักกี่คน? ที่จะพยายามรัก ผู้หญิงหนึ่งคน ด้วยล้านหนทาง



อยู่คนเดียวแล้วสบายใจ 98 เปอร์เซ็นคือ
อยู่คนเดียวแล้วสบายใจ 98 เปอร์เซ็น ของหญิงไทย.คือคำปลอบใจตัวเอง


อยากรู้ข้อบกพร่องของผู้หญิง อันที่จริงไม่ยากสักเท่าไหร่
อยากรู้ข้อบกพร่องของผู้หญิง
อันที่จริงไม่ยากสักเท่าไหร่
ความดีงามของเธอมีเพียงใด
แค่ชมให้เพื่อนเธอฟังเท่านั้นเอง



กระจกเงา
กระจกเงาสะท้อนความเป็นจริง
เรื่องทุกสิ่งชัดเจนเด่นตรงหน้า
ไม่มีใครหลอกได้ใต้แววตา
เลวชั่วช้าต่ำทรามตามใจตน

หลอกใคร ใครหลอกได้หลอกไปเถิด
อย่าเตลิดหลอกตัวมัวหมองหม่น
หลอกใคร ใครหลอกได้เว้นใจตน
เกิดเป็นคนเลว ดีอยู่ที่ใจ

การกระทำเปรียบดั่งกระจกเงา
ฉายสะท้อนความเขลาของเราได้
คนคิดดีทำดีที่จิตใจ
แสดงออกบอกได้ในท่าที

คนคิดชั่วทำชั่วด้วยตัวเขา
กระจกเงาสะท้อนตอนวิถี
คนทำดีต้องรับกลับผลดี
คนชั่วไม่ -. อาจหนีลี้ผลกรรม

ยกตัวเองขึ้น โดยไม่ลดคนอื่นลง

อาจารย์คนหนึ่งชวนลูกศิษย์เดินเล่นที่ชายหาด

อาจารย์ได้เริ่มสอนลูกศิษย์ด้วยการใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นลงไปบนผืนทราย เป็นเส้นคู่ขนาน ยาว 5 ฟุต และ 3 ฟุต ตามลำดับ

อาจารย์กล่าวว่า เธอสามารถทำให้เส้น 3 ฟุต ยาวกว่าเส้น 5 ฟุต ให้หรือเปล่า ไหนลองทำให้ดูหน่อยสิ

ลูกศิษย์หยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วก็ ลบรอยเส้นที่ยาว 5 ฟุตนั้นให้สั้นลงเหลือเพียง 1 ฟุต ทำให้เส้น 3 ฟุตโดดเด่นขึ้นมา 
แล้วศิษย์ก็ถามอาจารย์ และขอความเห็นว่า แบบนี้ถูกหรือเปล่าครับ


เหยีบบหัวคนอื่นเพื่อให้ตัวเองอยู่สูงขึ้น
อาจารย์เขกกบาลลูกศิษย์เบา ๆ แล้วบอกว่า คนที่จะยกตนเองให้สูงขึ้น โดยการทำร้ายคู่แข่งนั้น ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง 
ถ้าเลือกใช้วิธีนี้ชีวิตเธอ ก็มีแต่จะล้มเหลวไม่พัฒนา ทางที่ดีควรเลือกวิธีที่จะยกตัวเองขึ้น โดยไม่ไปลดคนอื่นลง 


แล้วอาจารย์ก็ขีดเส้น 2 เส้นให้เท่าเดิม คือ 3 ฟุต และ 5 ฟุต จากนั้นอาจารย์ก็สาธิตให้ดูด้วยการขีดเส้น 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุต
แล้วพูดว่า
 จงอย่าคิดว่าคู่แข่งของเธอคือศัตรู แต่ให้คิดว่าเป็นครูของเธอ ที่เธอจะต้องพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่า 
ที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม


คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยการฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อน ถึงแม้จะทำให้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จ
ที่ปราศจากเกียรติคุณ ไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรม 
กับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิถีทางของเขา อย่างเสรีนั้น ย่อมมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน


หากไร้คู่แข่งแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน ไม่มีอัปลักษณ์ก็ไม่รู้จักสวยงาม

นักสู้ที่ดีมักชื่นชมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข้ง เพราะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอ จะทำให้ชัยชนะของเขาไม่ยั่งยืนยง ดังนั้นเมื่อได้พบกับคู่แข่งที่แกร่ง และฉลาดล้ำ ก็ยิ่งทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น

การเลื่อนตัวเองขึ้นพร้อมกับลดคนอื่นลง เธออาจจะชนะ แต่ก็มีศัตรูตามมาด้วย

แต่การเลื่อนตัวเองขึ้นโดยไม่ไปลดคนอื่นลง เธออาจเป็นผู้ชนะ พร้อมกับยังมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้น 
และหนึ่งในนั้นอาจเป็นคู่แข่งของเธอเองด้วย

ธนาคารเวลา.....

สิ่งไหนที่สำคัญ สิ่งนั้นทำแล้วหรือยัง ? 
คนไหนที่เรารัก ทำดีกับเค้าแล้วหรือยัง ? 


ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่งเข้าบัญชีให้คุณทุกเช้า เป็นเงิน 86,400 บาท ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้น 
ทุกตอนเย็นจะลบยอดคงเหลือทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้ระหว่างวัน คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนที่สุดคุณต้องถอนมาใช้ทุกบาททุกสตางค์ 
ใช่ไหม!!!

เราทุกคนมีธนาคารอย่างนั้นเหมือนกัน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า เวลา มันเข้าบัญชีให้คุณ 86,400 วินาที ทุกคืนมันจะถูกล้างบัญชีถือว่าขาดทุนตามจำนวนที่คุณพลาดโอกาสที่จะลงทุนในสิ่งดีๆ มันไม่สะสมยอดคงเหลือ ไม่ให้เบิกเกินบัญชี ในแต่ละวันจะเปิดบัญชีใหม่ให้คุณ 
ทุกค่ำคืนจะลบยอดคงเหลือของทั้งวันออกหมด ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ในระหว่างวัน ผลขาดทุนเป็นของคุณ ไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ ไม่มีการถอนของ วันพรุ่งนี้ มาใช้ได้ คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้ ให้ลงทุนจากเงินฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนมาสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพ ความสุข และความสำเร็จ! นาฬิกากำลังเดิน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด


ทำทุกขณะที่คุณมีให้มีคุณค่า! และจำไว้เสมอว่าเวลาไม่คอยใครแม้สักคนเดียว 
เมื่อวานเป็นอดีต พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย 
วันนี้เป็นของขวัญ เราจึงเรียกว่า Present"

ทรายเต็มแก้ว

ทรายเต็มแก้ว


เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบ เหยือกแก้ว ขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ ลูกเทนนิส ลงไปจนเต็ม


"พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง ?" เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน "เต็มแล้ว"

เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ
หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเท กรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ
กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก


เหยือกเต็มหรือยัง ?"
นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ "เต็มแล้ว"

เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา และเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทราย 
ไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก 


เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้ง เหยือกเต็มหรือยัง ?"

เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน
หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น


คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์"
แน่ใจนะ"
แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ"

คราวนี้เขาหยิบ น้ำอัดลม สองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง" เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น

ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา
ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก และเพื่อน
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้
เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์
ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา
ชีวิตเต็มแล้ว เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน"


"ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข
ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย 
เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ 
ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา"

นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับ หมายถึงอะไร ?"

เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด 
ในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้นคุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ"

@@ ตัวเราก็ยังมีค่าที่สุดเสมอ

อาจารย์คนนึง เริ่มการสนทนาในชั้นเรียนด้วยการควักธนบัตรใบละ 1,000 บาท ..
ออกมาให้นักศึกษาดู แล้วถามว่า มีใครอยากได้บ้างไหม ทุกคนรีบยกมือ \(^o^)a

อาจารย์ขยำธนบัตรนั้น จบยับยู้ยี่ .. แล้วถามอีกครั้งว่า มีใครยังอยากได้ธนบัตรใบนี้อีกหรือไม่ .. ทุกคนยังยกมือขึ้นเหมือนเดิม .. \(^_^)/

อาจารย์ถามต่ออีกว่า ถ้าสมมุติว่า ธนบัตรใบนี้ถูกทิ้งอยู่บนพื้น แล้วมีคนมาเหยียบย่ำจนสกปรก ยังจะมีใครอยากได้อีกหรือไม่ .. นักศึกษาทุกคน ก็ตอบว่ายังอยากได้ ..

อาจารย์จึงกล่าวสรุปว่า ..

นั้นคือสิ่งมีค่า ที่พวกเธอได้เรียนรู้ในวันนี้! .. ไม่ว่าจะเธอจะทำอะไรกับธนบัตรใบนี้ มันก็ยังคงจะมีราคา 1,000 บาท อยู่เสมอ .. ชีวิตคนเราก็เช่นเดียวกัน

บางครั้ง เราอาจจะถูกทอดทิ้ง ถูกใครต่อใคร ซ้ำเติม, เหยีบย่ำ, ถูกขยี้, ยับเยิน, ..
เพราะความผิดพลาดในการก้าวเดินของชีวิต จนทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเอง ไร้ค่า

แต่ รู้มั้ย?.. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็ยังมี คุณค่าของความเป็นคน ..
ไม่ว่าเธอจะสะอาดเอี่ยม หรือว่า ยับยู้ยี่ .. ตัวเราก็ยังมีค่าที่สุดเสมอ จำไว้ ^

บางครั้งความสุข......ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไขว่คว้ามา


บางครั้งมันอาจจะจะอยู่ใกล้ๆตัวคุณก็ได้
.....ลองอ่านดูเผื่อคุณจะพบความสุขในไม่ช้านี้.....


1. นึกไว้เสมอว่า การโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับคุณนาน 3 ชั่วโมง

2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเขาต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้ง

3. ลองปลูกต้นไม้เองซักต้น การเติบโตของมันจะบ่งบอกตัวตนของคุณได้

4. หลับตานิ่งๆ สัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรที่อยู่ตรงหน้า มันช่างยากเย็นเหลือเกิน

5. ระหว่างแปรงฟัน ฮัมเพลงไปด้วยจนจบ จะทำให้ฟันสะอาดขึ้นเป็น 2 เท่า


6. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากรสชาติที่ธรรมดา ก็จะอร่อยขึ้นเยอะเลย

7. ไม่ว่าผมจะสั้นหรือยาวแค่ไหน ก็ต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด

8. การขึ้น-ลงบันไดสูงๆ แบบไม่ให้เมื่อย คือการไม่นับว่ากำลังยืนอยู่บันไดขั้นที่เท่าไร

9. คนตาบอดจะเห็นว่าคุณสวยมากๆ ทันทีที่คุณถามเขาว่า ให้ช่วยพาข้ามถนนไหมคะ 

10. เมื่อจะหยิบเศษเงินให้ขอทาน ไม่จำเป็นต้องนับก่อนที่จะหย่อนลงกระป๋องหรอก

11. ควรหัดพูดคำว่า ไม่เป็นไร ให้เคยปาก มากกว่าจะพูดคำว่า จะเอายังไง 

12. ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น 15 นาที รับรองว่าจะไม่ไปสายเหมือนเมื่อก่อน

13. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง ดังนั้นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ จึงเล่าให้มันฟังได้

14. อาหารที่จะไม่ชอบกินตอนเด็กลองตักเข้าปากอีกสักที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด

15. เขียนชื่อคนที่คุณเกลียดใส่กระดาษ แล้วฉีกทิ้ง ( หรือแปะไว้ใต้รองเท้าแล้วใส่รองเท้านั้นไปเดินเล่นสักพัก ) ความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ


16. ปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูแทบไม่ออกเลยว่าเพิ่งร้องไห้

17. ตุ๊กตาและของเล่นเก่าๆ จะทำให้เรายิ้มออกเสมอ เมื่อได้เห็นมันอีกครั้ง

18. ก่อนซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมัน ทำให้ได้ 3 ข้อก่อน

19. ถึงเสื้อและกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าใสสลับกันไปเรื่อยๆ ก็จะดูเหมือนมีเยอะขึ้น

20. ซาลาเปา 1 ลูก กินได้ 2 คน ลูกชิ้นปิ้ง 1 ไม้ กินได้ 4 คน ถ้าคุณคิดจะแบ่งเท่านั้นเอง

21. เลือกให้ของขวัญแก่คนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าให้คนที่ได้เยอะ จนจำชื่อคนให้ได้ไม่หมด

22. ในวันที่รู้สึกเศร้าหรือเหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอก ก็จะดีขึ้น

23. แอบรักใครสักคน ยังไงก็ยังดีกว่าไม่เคยรู้ว่า ความรู้สึกรัก มันเป็นอย่างไร

24. ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความจะแต่งตัว สวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่

25. ฝึกโรแมนติกง่ายๆ คนเดียวบ้าง ด้วยการนั่งนับดาวให้ครบ 100 ดวงก่อนนอน

26. ถ้าคุณเช็ดกระจกที่ขุ่นมัวที่สุดจนสดใสได้ ทำไมถึงจะเรียนดีกว่านี้ไม่ได้

27. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบ มันอาจจะไม่สนุก แต่ก็มีประโยชน์แฝงอยู่

28. วันที่ตื่นเช้าให้บิดขี้เกียจให้นานที่สุด เท่าที่จะนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกาย

29. แค่เอาข้าวที่กินไม่หมดไปให้หมาที่เดินผ่าน ก็เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลงทุนแล้ว

30. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน แม่จะได้มีค่าขนมให้คุณเพิ่มขึ้นอีกหลายบาท

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อาหาร 5 ชนิดที่ยังกินได้หลังวันหมดอายุ

หมดอายุอย่าเพิ่งทิ้ง! อาหาร 5 ชนิด ที่คุณยังกินได้หลังวันหมดอายุ

ทราบหรือไม่คะว่า...ในหนึ่งวันที่ประเทศอเมริกา มีอาหารกว่า 40% ถูกนำไปทิ้งเพราะเลยวันหมดอายุไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วมีอาหารบางอย่างที่ยังสามารถรับประทานได้แม้เลยวันที่ระบุไปแล้ว

ดานา กันเดอร์ (Dana Gunders) นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารให้สัมภาษณ์ว่า วันที่หมดอายุในอาหารบางประเภท ไม่ได้แปลว่าอันตรายจนกินไม่ได้ แต่หมายถึงรสชาติที่รับได้ถึงวันที่ระบุเฉยๆ (หมายความว่ารสชาติอาจแย่ลง แต่ยังกินได้)

ตัวอย่าง อาหาร 5 ชนิดที่ยังรับประทานได้หลังวันหมดอายุแล้ว เช่น

1. แผ่นแป้งตอร์ติญา (Tortilla) แม้จะยังกินได้ แต่รสชาติ และความกรอบอาจแย่ลง แก้ไขได้ง่ายๆ โดยนำไปทาน้ำมันเล็กน้อยแล้วเอาไปอบใหม่ แป้งก็จะกรุบกรอบเหมือนเดิม ถ้ายังทานไม่หมดก็เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท กันความชื้นเข้า

2. โยเกิร์ต ความจริงแล้วสามารถเก็บไว้ได้อีกถึง 6 อาทิตย์ นางกันเดอร์ ยังบอกด้วยว่า เธอเคยตักส่วนที่ขึ้นราออกจากโยเกิร์ตหมดอายุออก และกินส่วนที่เหลือได้โดยไม่เป็นอะไร

3. ช็อคโกแลต อาหารที่อยู่ได้นาน แม้จะมีครบขาวเกาะเมื่อสัมผัสอากาศ แต่นั่นเป็นเพียงไขมันที่ละลายแล้วขึ้นไปเกาะที่ผิวหน้าช็อกโกแลต ไม่ใช่เชื้อราแต่อย่างใด

4. ไข่ เป็นอาหารอีกอย่างที่อยู่ได้นาน 3-5 สัปดาห์ เท็ด ลาบูซา (Ted Labuza) ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์อาหาร จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตากล่าวว่า เราเก็บไข่นานได้โดยเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส เพราะที่อุณหภูมิดังกล่าวจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราได้

5. นม วิธีเก็บรักษานมที่ดี คืออย่าตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพราะเชื้อจุลินทรีย์ในอากาศจะทำให้นมบูดเสีย เมื่อเปิดขวดแล้วรีบปิด นำเข้าตู้เย็นตั้งอุณหภูมิไว้ราวๆ 2 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยยืดอายุนมให้เก็บได้นานขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : BBC

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กลับตัว...กลับใจ

เธอทำให้ฉัน...อยากเป็นคนที่ดีกว่านี้
เธอทำให้ฉัน...มีความตั้งใจมากมาย
เธอทำให้ฉัน...อยากทำให้เธอไม่อาย
เวลาที่ใครถาม...ว่าเรานั้นเป็นอะไร
เคยได้แต่คิด...ปล่อยให้ชีวิตเสเพล
เคยแต่ทุ่มเทเวลา...ให้คนมากมาย
ไม่เคยจะคิด...อยากมีชีวิตเพื่อใคร
แต่ในวันนี้...จะมีไว้เพื่อเธอ
ที่ให้วันนี้...อาจเป็นเพียงคำสัญญา
แต่ว่าเวลา...จะทำให้เธอมั่นใจ
ไม่เคยจะคิด...อยากมีชีวิตเพื่อใคร
แต่ในวันนี้...จะมีไว้เพื่อเธอ

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เหนือสุข เหนือทุกข์

แม้เราจะรักความสุขมากมายเพียงใด
ความสุขก็หาได้รักเราไม่
วันดีคืนดีความสุขก็จากเราไป
ถึงจะกลับมาใหม่ ก็อยู่กับเราประเดี๋ยวประด๋าว
ส่วนความทุกข์นั้น แม้เราจะเกลียดมันเพียงใด
แต่มันก็มักจะมาหาเราอยู่เสมอ
ยิ่งพยายามหนีมัน มันยิ่งเข้ามาพัวพัน
เคยสังเกตไหมว่า........
ยิ่งเกลียดอะไร ก็ยิ่งเจอสิ่งนั้น
ในทางตรงกันข้าม.......
ยิ่งรักอะไร ก็มักสูญเสียสิ่งนั้น
หรือเหนื่อยกันการไล่ล่ามากขึ้น

ลองวางใจเป็นกลางต่อสุขและทกข์ดูบ้าง
สุขมาก็ไม่ยินดี.....ทุกข์มาก็ไม่ยินร้าย

อย่าคาดหวัง.....

อย่าเอาแต่คาดหวัง........
นั่งรอ ให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิต
แต่ต้องลุกออกไปต่อสู้
ส ร้ า ง สิ่ ง ดี ๆ
ให้เกิดขึ้นมาด้วยตัวเราเอง
อย่าคาดหวังจะได้คำชมจากใคร ๆ.......
ว่าเราดีมีคุณค่า...แต่จงลุกขึ้นมา
ส ร้ า ง คุ ณ ค่ า.......ให้ตัวเราเอง

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กาลเวลา

เรา.....อาจจะคุ้นเคยกับคำพูดที่ว่า
ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข
เมื่อเกิดขึ้นได้ก็ย่อมจะมีทางทำให้หายไปได้เช่นกัน
จึงพยายามคิดอย่างหนัก
เพื่อที่จะค้นหาทางออกของปัญหาให้เจอโดยเร็ว
ไม่อยากจะแบกความทุกข์ไว้นานข้ามวันข้ามคืน
เป็นคนใจร้อนรอไม่เป็น
แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่
ก็ดูเหมือนจะยิ่งห่างไกล
จาก ท า ง อ อ ก ไปเรื่อย ๆ
กว่าจะรู้ตัวความคิดก็เตลิดไปไกล
จนยากที่จะดึงมันกลับมาสู่ความเป็นจริงได้ง่าย ๆ


นั่น.....
อาจเป็นความตั้งใจของมนุษย์ผู้จริงจังกับชีวิตมากเกินไป
กำลังพยายามคิดหาทางออกให้ตัวเอง
โดยไม่ทันคิดว่าเมื่อเราได้คิดอย่างถ้วนถี่ดีแล้ว
หากยังไม่เจอทางออก สิ่งที่ดีที่สุดน่าจะเป็น
การปล่อยวางความคิดทั้งนั้นให้ได้จะดีกว่า
อีกทั้งบางปัญหา........
การไม่ทำอะไรเลยก็อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ให้เวลาเป็นตัวแก้ไขแทน

เพราะ......
เวลาเป็นเครื่องบรรเทาความเจ็บปวด
ให้ทุเลาลงได้ชะงัดนัก
ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ร้อนใจ
ปัญหาที่เหมือนไม่มีทางออก
ความเจ็บช้ำน้ำใจ
ความผิดหวัง
ความโกรธ
ความอาย
ความรู้สึกแย่ ๆ
เราสามารถอาศัยเวลา
เป็นเครื่องช่วยรักษาให้หายได้เสมอ

กาลเวลา......
คือ เครื่องบรรเทาและบำบัดทุกเรื่อง
แม้แต่ความกลัดกลุ้มระทมทุกข์ที่ไม่มีทางแก้ไข
ก็สามารถบรรเทาลงได้
เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาที่เหมาะสมไปแล้ว
ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราจะสามารถ
รอคอยวันนั้นได้หรือเปล่า
เมื่อถึงวันนั้น....ทุกอย่างก็จะกลับมา
เป็นปกติเหมือนเดิม

5 สิ่งที่คุณแม่ควรทำ เพื่อให้ลูกเติบโตอย่างฉลาดและมั่นใจ

ลูกเติบโตมาอย่างฉลาดและมั่นใจในตัวเอง คุณแม่ยุคใหม่ควรปลูกฝังและควรทำสิ่งเหล่านี้กับลูก เด็กที่ได้รับ 5 สิ่งจากแม่จะเป็นเด็กที่มีความมั่นใจและเป็นเด็กฉลาด ไม่เครียด พร้อมเจอเรื่องใหม่ๆ ในชีวิต มาดูกันไปทีละข้อ เริ่ม!
1. แม่ควรมอบความรักและความอบอุ่นอยู่เสมอ
เด็กที่รู้สึกว่าแม่รักเขาอย่างที่เป็นและคอยให้กำลังใจให้ความอบอุ่นอยู่เสมอ เด็กประเภทนี้จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มีแม่ที่ยอมรับเขาอยู่ ดังนั้นเด็กประเภทนี้จะมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกถึงความเป็นตัวตนต่อหน้าคนอื่นๆ
2. แม่ที่ไม่ตำหนิ
ไม่ได้หมายถึงการโอ๋จนลูกเคยตัว แต่หมายถึงเวลาที่ลูกทำผิดพลาด คนเป็นแม่ไม่ควรจะซ้ำเติม กลับกันควรให้คำแนะนำว่าสิ่งที่ถูกต้องควรจะทำอย่างไร ให้ความผิดเป็นครูสอนสิ่งต่างๆ เด็กประเภทนี้จะรู้สึกว่าการทำพลาดไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ถ้าหากว่าทำแล้วสามารถสอนให้เขาได้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
รูปจาก thesutherlandcenter.com
3. แม่ที่ให้คำชมเชยลูกอยู่เสมอ
กำลังใจหรือคำชมถือเป็นสิ่งที่เด็กๆ ทุกคนอย่างจะได้ เรียกได้ว่ามีคุณค่าทางใจ จากเด็กที่ทำอะไรด้วยตัวเองหรือทำสิ่งที่ตัวเองชอบ หากแม่ชื่นชมเขา เขาจะยิ่งภาคภูมิใจและทำสิ่งเหล่านั้นให้ดีขึ้นไปอีก แต่คุณแม่ไม่ควรพูดเกินความจริงนะคะ ชมแบบเป็นเหตุเป็นผลให้เด็กได้เข้าใจ
4. แม่ที่ไม่กดดันให้ลูกทำอะไรที่ยากเกินไป
คุณแม่แบบนี้แหละค่ะเยี่ยมสุดๆ ไม่บงการให้ลูกทำอะไรที่ตัวเองต้องการ แต่มันยากเกินไปสำหรับลูก ให้เขาได้ทำในสิ่งที่ความสามารถของเขาถึง เช่น ไม่ควรบังคับให้ลูกเรียนหมอหากว่าเขาไม่ได้ชอบ หรือ เขาถนัดด้านอื่นมากกว่า
5. แม่ที่เปิดโอกาสให้ลูกมีประสบการณ์ที่ชีวิตของตัวเอง
ลองผิดลองถูก ลองเรียนรู้และผิดพลาดเพื่อให้เกิดการเข้าใจ แม่ที่ดีควรปล่อยให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เสี่ยงๆ จะทำให้ลูกกล้าคิดกล้าตัดสินใจและอยู่ในภาวะผู้นำที่ดี มีความมั่นใจและกล้าบอกเล่าอะไรก็ตามที่เป็นเหตุเป็นผล เพราะว่าเขาเคยเจอมากับตัวเองแล้ว เด็กประเภทนี้จะโตมาอย่างฉลาดและเอาตัวรอดได้ดีในสถานการณ์ที่คับขัน

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559

จะยอมเหนื่อยเพื่อสิ่งที่ใช่จริง ๆ หรือจะทนทรมานใจกับสิ่งที่ฝืน

คำว่า "ของฟรี" มักจะทำให้คนเรารู้สึกดีได้เสมอ
บางครั้งก็ถูกโยงไปถึงคำว่าโชคดีได้อีกด้วย
เพราะถ้าได้รับของฟรีพลันก็คิดว่าตัวเองมีโชค
หลายคนจึงรีบคว้าไว้โดยเร็ว
ไม่ทันคิดว่ามันอาจจะมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่
แต่ของฟรีในโลกนี้มีจริงหน่ะหรือ
ยิ่งถ้าเป็นในสังคมปัจจะบันที่ต่างทำมาค้ากำไร
กันแทบทุกอย่าง การจะหาของฟรีที่ดีจริงนั้น
จึงยากเต็มที.....

บางคน...อาจถูกยัดเยียดของฟรี (ของเหลือ) ให้
ก็รับด้วยความเกรงใจ แม้แต่เรื่องการงาน
บางทีก็รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ชอบงานที่ทำอยู่เลย
แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงออกไปหางานใหม่
ทั้งที่มีโอกาส ได้แต่ทนทำไปเรื่อย ๆ
แต่ในใจก็ไม่มีความสุขเอาเสียเลย
สุดท้ายก็หมดกำลังใจที่จะทำงานดี ๆ
ออกมาจะไม่ดีกว่าหรือ......
ถ้าจะหางานที่ใช่ เพราะอย่างน้อย
ก็เพื่อความสบายใจของตัวเอง
แม้ต้องเหนื่อยในตอนแรกก็ตาม

ในความเป็นจริง
คนเราทุกวันนี้ นอกจากจะอยากได้อะไรมาแบบง่าย ๆ
ก็ยังไม่คิดที่จะต่อสู้ดิ้นรนอะไรมากมาย
ไม่มีความมานะอุตสาหะที่มากพอ
เพื่อจะให้ได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง
แม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการเลย
แต่เมื่อเห็นว่าเป็น "ของฟรี" ก็พร้อมที่จะรับไว้ทันที
แต่ในทางตรงขัาม.......
แม้รู้อยู่ว่าตัวเองปรารถนาอยากได้สิ่งไหน
แม้เป็นความต้องการที่ตรงกับใจมากที่สุด
แต่พอเห็นว่า กว่าจะได้มันมานั้น
ต้องเหนื่อยยากลำบากขนาดไหน
เป็นเพียงแค่ความคิดที่ยังไม่ได้ลงมือทำ
ก็พลันทิ้งมันไว้ข้างทางไม่กล้าสานฝันต่อ
กลายเป็นเรื่องน่าเสียดายจริง ๆ
สำหรับคนที่ทิ้งความฝันเช่นนี้ไป

เป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างยิ่ง
ที่นับวัน จำนวนคนที่ยอมเหนื่อย
เพื่อที่จะได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของความสำเร็จ
กำลังลดลงเรื่อย ๆ อย่างน่าใจหาย
ยังไม่นับรวมถึงคนที่ทิ้งความฝันระหว่างทางอีกมากมาย
ซึ่งบางทีแค่เพียงอดทนอีกนิดเดียว
ก็อาจจะถึงเส้นชัยแล้ว........

อย่างไรก็ตาม....
เราเองต้องถามใจตัวเองให้ดีว่า
การที่เราจะเหนื่อยกับอะไรสักอย่างนั้น
เหนื่อยเพื่ออะไร?
ที่สุดแล้วมันคุ้มค่ากันหรือเปล่า?
แล้วเทียบกับสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดายหล่ะ
เป็นความต้องการจริง ๆ ของเราแล้วหรือ?

การที่เราไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย
กับการแลกมาด้วยความยากลำบาก
อย่างไหนที่มีคุณค่ามากกว่ากัน?

ไม่ต้อง...ตอบคำถามนี้กับคนอื่นให้มากความ
เพราะแต่ละคนคงจะถามไม่เหมือนกัน
ทั้งหมดนี้มันเป็นโจทย์เพื่อให้ "เรา" ตอบใจตัวเองว่า

"จะยอมเหนื่อยเพื่อสิ่งที่ใช่จริง ๆ
หรือจะทนทรมานใจกับสิ่งที่ฝืน
ก็เท่านั้นเอง........."

หยุดทำร้ายตัวเองด้วยความคิดเสียที

การวาดภาพ ที่น่ากลัวบนเส้นทางเดินของชีวิต
ทั้งที่มันยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง
นอกจากจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรแล้ว
ก็ยังทำให้ชีวิตเรายิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่อีกด้วย

หยุดทำร้ายตัวเองด้วยความคิดเสียที
แล้วเดินไปข้างหน้าด้วยความกล้า
ที่จะเผชิญกับทุกปัญา
และยอมรับกับทุกสิ่ง
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตกันดีกว่าไหม?

ความรัก.....

รัก.....ที่พอดี....ให้ความรู้สึกอบอุ่น
รัก.....ที่มากเกินพอดี.....ชีวิตก็รู้สึกอึดอัด
รัก.....ที่ขาด
ถ้าพยายามช่วยกันเติมให้เต็ม...รักก็อยู่ได้
แต่ถ้า "ความจริงใจ" ในรักหายไป
ก็ไม่อาจเรียกได้....ว่ารัก

ความสุข ความทุกข์ที่ผ่านเข้ามา สอนให้ชีวิตเราได้ประสบการณ์

ชีวิต...มีเรื่องที่เกิดขึ้นแบบที่เราไม่คาดคิดมากมาย
เราคงไม่สามารถมีความสุขได้กับทุกเรื่อง
ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถที่จะมีความทุกข์ได้กับทุกเรื่อง
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนคละเคล้า ปะปนไปทั้งเรื่องดีและไม่ดี
ให้จิตใจเรามีบทเรียน ให้ความรู้สึกเรามีบททดสอบ ให้ชีวิตเราได้ประสบการณ์
ถ้าเราเข้มแข็ง เราก็จะผ่านทุกเรื่องไปได้
ถ้าเราเข้าใจชีวิต เราก็จะผ่านทุกเรื่องไปได้
ไม่ว่าจะหนัก หรือเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม

credit : แค่อยากให้เธอมีกำลังใจ

ถ้ารักสงบ....อย่าไปรบกับคำนินทา

มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก 
ที่คนที่ไม่รู้จัก จะพูดถึงเรา
แต่ไม่ว่าอย่างไร.......
ก็อย่าไปสนใจให้มากนัก
เพราะเมื่อผ่านไปสักพักก็จะพบว่า
พวกเขาเหล่านั้นมักจะนินทา
ทั้งที่ยังไม่รู้จักเราดีพอ....

มีบ่อยครั้งเช่นกัน........
ที่คนเรามักจะเป็นทุกข์
เพราะหวั่นไหวไปกับวิจารณ์
คำนินทาให้ร้ายจากผู้คนรอบข้าง
เพื่อนร่วมงาน พี่น้อง เพื่อนฝูง
ทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักเรา
ทั้งหวังดี และหวังร้าย
ทั้งที่เป็นความจริงอยู่บ้าง
และไม่เป็นความจริงเอาเสียเลยก็มี

ทุกครั้ง
ที่ได้ยินคำนินทาเหล่านั้น
สิ่งแรกที่เกิดขึ้นเสมอกับทุกคนก็คือ "ความรู้สึก"
จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของแต่ละคน
บ้างก็เป็นทุกข์ร้อน กังวลใจ หดหู่ตลอดทั้งวัน
หรืออาจจะนานกว่านั้น บางคนกลับเฉย ๆ
แม้จะรู้สึกบ้าง แต่ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิต
ได้ยินแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป
แล้วก็ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
แต่คนส่วนใหญ่เมื่อถูกนินทา
ก็มักจะมีอารมณ์ทันที........
โดยที่ยังไม่ทันคิดถึงข้อเท็จจริงที่เขาพูดเสียด้วยซ้ำ

หากเราใช้เวลาสักนิด
เพื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เขานินทาอย่างมีสติ
ไม่เอาแต่โมโหเลือดขึ้นหน้า
จะเอาเรื่องเอาความ.......
หรือทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง
จนเป็นเหตุให้ต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน
เราก็อาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้นก็เป็นได้

การพยายาม ดิ้นรน ต่อล้อต่อเถียง
หรือหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองนั้น
บางครั้งกลับยิ่งทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
ทำเรื่องธรรมดาให้วุ่นวาย และสุดท้ายบานปลาย
จนมีจุดจบที่ไม่ดีไป.......

บางที.....การอยู่เฉย ๆ
อาจจะเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด
ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ
ไม่นานก็จะเลิกพูดจานินทา
และลืมกันไปเองนั่นแหล่ะ
เพราะวัน ๆ หนึ่งแต่ละคน
ต่างก็มีเรื่องที่ต้องทำมากมาย
ไม่มีใครจะมัวมานั่งสนใจเรื่องของคนอื่น
มากกว่าเรื่องของตัวเองเท่าไหร่หรอก
ส่วนใหญ่แล้วความเลวร้ายที่เกิดขึ้นนั้น
เกิดจาก "จินตนาการ" อันเลวร้ายของเรานั่นเอง
ทั้งที่จริงอาจไม่ได้มีอะไรก็ได้

เพราะจะว่าไปแล้ว.........
การนินทาถ้าจะให้สนุก
ก็จะต้องทำให้ผู้ที่ถูกนินทาเป็นเดือดเป็นร้อน
กับคำนินทานั้น ซึ่งยิ่งทำให้เขาเป็นทุกข์ร้อนใจ
ได้มากเท่าไหร่ คนที่นินทาก็จะยิ่งได้ใจ
ยิ่งกระหน่ำทำให้เรารู้สึกแย่มากยิ่งขึ้น

แต่....ถ้าเราอยู่นิ่ง ๆ ไม่โต้ตอบไปมา
อยู่เฉย ๆ ทำตัวเป็นปกติ
ไม่นานเขาก็จะหมดสนุก
และไม่มาสนใจเราอีก

การแก้ตัวที่ดีที่สุดคือ "การนิ่งเงียบ" นั่นเอง

ผู้มีชื่อเสียงหลายคน
จึงมักใช้วิธีการนี้ เพื่อให้ข่าวลือจบไว ๆ
ไม่นานความจริงก็ปรากฎขึ้นเอง
ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จก็ตาม
และมันก็เป็นวิธีที่ได้ผลดีเสียด้วย

ส่วน....คนที่ชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น
แท้จริงแล้วเป็นผู้ที่มีปมด้อยในใจ
การพยายามให้ร้ายผู้อื่น
จึงเป็นวิธีการอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้เขารู้สึกมีค่าขึ้นบ้าง
ทั้งบังทำให้รู้สึกว่าตัวเองโดดเด่น
ในบรรดาก๊วนชอบนินทาชาวบ้านด้วยกัน
แท้จริงแล้วมันอาจะป็นการประจานตัวเองมากกว่า
สุดท้าย....คนที่เสียมากกว่าก็คือ
ค น ที่ พู ด นั่ น  แ ห ล ะ

เพราะ.....
โลกนี้ไม่มีอะไรที่จะเป็นความลับได้ตลอดไป
สักวันเมื่อทุกอย่างเปิดเผยจนกระจ่าง
ความจริงก็จะพิสูจน์ตัวมันเอง
เพียงแต่เรายอมรับเอา "คำนินทา" ที่สร้างสรรค์
มาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเท่านั้น
นอกเหนือจากนี้..จงปล่อยวางมันเสียจะดีกว่า

มัน....ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก
ที่คนที่ไม่รู้จักจะพูดถึงเรา
แต่ไม่ว่าอย่างไร........
ก็อย่าไปสนอะไรให้มากนัก
เพราะเมื่อผ่านไปสักพักก็จะพบว่า
พวกเขาเหล่านั้น
มักจะนินทา...ทั้งที่ยังไม่รู้จักเราดีพอ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชีวิตคนเรา
ก็มีทั้งแง่ดีและไม่ดีกันทุกคน
เพียงแต่เราต้องยอมรับ
ในความบกพร่องของเราด้วย
พร้อมที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น
ดีกว่าจะมัวไปสนใจ.......
แต่ลมปากชาวบ้านเป็นไหน ๆ

credit : ความสุขของเรามีเท่ากัน

เมื่อความรักเปิดประตูเข้ามาทักทาย ความแข็งกระด้างก็อ่อนโยนได้

"เราทุกคนล้วนมี มุมดี มุมเลว ด้วยกันทั้งนั้นแหล่ะ
แล้วแต่จะมีเวอร์ชั่นไหนมากกว่ากันก็เท่านั้น

บางคนก็เผยด้านเลวได้สุดโต่ง

แต่พอเจอการดูแล "" ด้วยความรัก ""
เจอการดูแล "" ด้วยความใส่ใจ ""
เจอการดูแล "" ด้วยความห่วงใย ""
ความหยาบคายแข็งกระด้างก็เริ่มลดน้อยลง

จริงๆความรักมันเยียวยาได้หลายความรู้สึกนะ

#ฉันเป็นกระบองเพชรที่มีมีเธอคอยดูแล
#จนกระทั่งวันหนึ่งกระบองเพชรอย่างฉัน
#สามารถผลิดอกสวยๆให้เธอได้เห็น"

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อย่ามองคนที่ภายนอก.....

ภายนอกของคน บอกอะไรเราไม่ได้
เพราะมนุษย์ สามารถปรุงแต่ง
ภายนอกของตัวเองให้ดูดี
จนบางครั้ง ก็มองเห็น ต่ข้อดี
จนลืมมองข้อเสียไปอย่างไม่รู้ตัว

ผักและผลไม้ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง


ผักและผลไม้ มีความสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ เป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยเรื้อรังบางอย่าง หรือแม้แต่บุคคลทั่วไป ผักและผลไม้บางชนิดมีข้อควรระมัดระวังในการกิน ซึ่งต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมด้วย

ผักและผลไม้ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

1. โรคไต ควรหลีกเลี่ยงการกินผักและผลไม้ที่มีสาร ดังต่อไปนี้
- กรดออกซาลิก ได้แก่ มันสำปะหลัง โกฐน้ำเต้า ผักโขม ผักแพว ปวยเล้ง มะเฟือง ใบชะพลู แครอต หัวไซ้เท้า ใบยอ กระเทียม
- กรดเด็งโคลิก ในลูกเนียงดิบ
- โพแทสเซียม ได้แก่ ผักโขม หน่อไม้ ขี้เหล็ก ชะอม เห็ดโคน ใบกระเพรา กระถิน แครอต ผักแพว ผักคะน้า รวมถึงผลไม้ (ทุเรียนก้านยาว ทุเรียนชะนี
กล้วยหอม และกล้วยไข่)

2. โรคทาลัสซีเมีย ควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักกูด ถั่วฝักยาว ผักแว่น เห็ดฟาง พริกหวาน ใบแมงลัก ใบกะเพรา ผักเม็ก ยอดมะกอก และยอดกระถิน

3. โรคไทรอยด์ ควรระมัดระวังการกินกะหล่ำปลี หากกินควรผ่านการปรุงให้สุกก่อน

4. โรคกระเพาะและสำไส้ ควรหลีกเลี่ยงการกินพริกในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากทำให้เกิดความเผ็ดร้อน ทำให้กระเพาะอักเสบ และอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารมีกระบวนการเกิดโรคมากขึ้น"

ดำเนินชีวิตอย่างไรให้เป็นสุขในโลกปัจจุบัน :)


1. ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรัก และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน

2. เมื่อคุณแพ้ อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน

3.จงปฏิบัติตาม 3Rs
ก. เคารพตนเอง (Respect for self)
หากเราไม่เคารพตัวเองแล้ว ใครจะเคารพเราจงพึงสังวรณ์ไว้
ข. เคารพผู้อื่น (Respect for others)
เมื่อเราเคารพตัวเองแล้วเราต้องเคารพคนอื่นด้วย
ค. รับผิดชอบต่อการกระทำของตน (Responsibility for all your actions)
หากเราไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของเราแล้วใครจะมาเคารพเรารับผิดแทนเรา

4. จงจำไว้ว่าการที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตนบางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์

5. จงเรียนรู้กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม

6. จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ

7. เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข

8. จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน

9. จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป

10. จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบ ก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

11. จงดำเนินชีวิตด้วยความ ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อที่ว่า เมื่อคุณสูงวัยขึ้น และคิดหวนกลับ คุณจะสามารถมีความสุข กับสิ่งที่ได้ทำลงไปได้อีกครั้ง

12.บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัว เป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต

13.เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่อง ปัจจุบัน อย่า ขุดคุ้ยเรื่อง ในอดีต

14. จงแบ่งปันความรู้เพื่อเป็น หนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ

15. จงสุภาพกับโลกใบนี้.

16. จงหาโอกาสท่องเที่ยวไป ยังสถานที่ต่างๆ ที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง เพื่อทำการลบความคิดแบบเก่าๆ ออกบ้าง

17. จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ ที่ดีที่สุด คือความรัก มิใช่ ความใคร่

18. จงตัดสินความสำเร็จของ ตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ

19.จงเข้าใกล้ความรักด้วยการ ปล่อยวาง

20.จงดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วย พุทธธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น...

- Incrystal -

ปาท่องโก๋...อาหารเช้ายอดแย่


      ปาท่องโก๋เป็นเมนูอาหารเช้ายอดฮิตของคนไทยมาช้านาน แต่รู้หรือไม่ว่าปาท่องโก๋ส่งผลไม่ดีกับสุขภาพของคุณได้

      ปาท่องโก๋ทำมาจากแป้งขัดขาว เปลี่ยนเป็นน้ำตาลและเข้าสู่กระแสเลือดได้ไว เป็นอาหารที่มีแต่แป้ง ถูกนำไปทอดในน้ำมันอีกด้วย ซ้ำส่วนมากก็เป็นน้ำมันใช้ซ้ำ จนก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งอีกด้วย

      ยังพบว่าบางร้านใช้สารส้มเป็นส่วนประกอบในการทำปาท่องโก๋ หากทานทุกวัน จะทำให้รู้สึกคอแห้ง เจ็บคอ ร้อนในง่าย ไตทำงานหนักขึ้น เป็นพิษต่อเซลล์สมองและประสาท

      นอกจากตัวแป้งแล้ว ยังควรต้องระวังในการรับประทานคู่กับนมข้นหวานหรือสังขยาอีกด้วย เป็นการเพิ่มน้ำตาล แคลอรี่ให้กับร่างกาย

      การรับประทานปาท่องโก๋เพื่อสุขภาพ ควรทานแต่พอดี อย่าบ่อยถึงขั้นต้องรับประทานทุกเช้าเลยนะคะ

ไม่มีอะไรเป็นของคุณจริง...

• ไม่มีอะไรเป็นของคุณจริง
ทุกสิ่งแค่มาลองใจ
ว่าคุณเป็นคนแบบไหน
ตระหนี่ ใจดี ขี้โกง
หรือตรงไปตรงมา
เหมาะจะลำบาก
หรือสบายในภายหน้า
.
• ชีวิตเปลี่ยนทุกวัน
แต่จะดูต่างไปจริงๆ
ก็เมื่อคุณเห็น
และยอมรับว่าชีวิตไม่เที่ยง
เป็นไปตามเหตุปัจจัย
ไม่ใช่เป็นไปตามใจคุณ

• เกิดมาเราไม่เคยมีอะไรจริงอยู่แล้ว
ที่เคยเสียมาทั้งหมด
ก็แค่เสียดาย
และเสียใจเท่านั้นเอง
.
.❥
#ดังตฤณ

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แค่......ปล่อยมือ

เหนื่อยนัก....เหนื่อยนัก ก็พักหน่อย
ค่อย ๆ ปล่อย วางลง ปลงเสียบ้าง
มือที่ถือ ก็มีอยู่...เพียงสองข้าง
เลือกดูบ้าง ที่ควรทิ้งขว้าง ที่ควรใส่ใจ

เพียงเสียงนก เสียงกา เสียงฟ้าร้อง
เก็บมาทุกข์ เก็บมาหมอง ลองคิดเห็น
จำเป็นไหม ใจหนึ่งใจ ต้องลำเค็ญ
เพียงแค่ความ คิดเห็น ทำร้ายใจ

นิ่ง ๆ บ้าง ตั้งสติ ค่อย ๆ เลือก
อันไหนเปลือก อันไหนเหลือ อันไหนใช่
จะแบกรับ ทุกข์ทุกอย่าง ไว้ทำไม
หมดหนทางแก้ไข....วางทิ้งมันได้
"แค่..........ปล่อยมือ"

credit : ที่ตั้ง "ของความสุข"

วันนี้คุณอาจมีเงินใช้......

วันนี้คุณอาจมีเงินใช้.......
สบายกระเป๋า สบายมือ อยากได้อะไรก็ได้
อยากซื้ออะไรก็ซื้อ คนอื่นมี เราก็ต้องมี
โดยที่คุณไม่ได้หาเงินนั้นมาด้วยตัวเอง
แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งคุณไม่มีเงินติดตัว
เพื่อมาใช้ปรนเปรอความต้องการของตน
แล้ว คุณก็รู้จักว่า "ความลำบาก"
ในการหาเงินมานั้น มันจะเป็นอย่างไร
"คุณจะทำยังไงกับชีวิต ต่อไปเมื่อไม่มีเงิน"

credit : Bong Bank

เคยมั้ย?

เคยมั้ย?

"ทำดี" จนกลายเป็น "คนโง่"
"โมโห" จนกลายเป็น "คนบ้า"
"เจ็บซ้ำๆ" จนกลายเป็น "คนชินชา"
"หนีปัญหา" จนกลายเป็น "คนเอาแต่ใจ"
"จริงจัง" จนกลายเป็น "คนคิดมาก"
"คิดซ้ำซาก" จนกลายเป็น "คนไม่เอาไหน"
"ขี้ใจอ่อน" จนกลายเป็น "คนหลอกง่าย"
"ฝันมากไป" จนกลายเป็น "คนไม่ยอมรับความจริง"

credit : ที่ตั้ง "ของความสุข"

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประโยชน์ของการปั่นจักรยาน 13 ข้อ

1. ช่วยให้นอนหลับลึกกว่าเดิม
การออกปั่นจักรยานตอนเช้า ๆ ช่วยให้เราหลับได้ลึกกว่าเดิม และลดปัญหาการนอนไม่หลับ คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดได้ทดลองให้คนที่มีปัญหานอนหลับยาก (Insomnia) ออกไปปั่นจักรยานตอนเช้าทุก ๆ วัน วันละ 20-30 นาที ผลปรากฎว่าคนที่มีปัญหาการนอนไม่หลับ สามารถนอนหลับสนิทได้เร็วขึ้นเกือบหนึ่งชั่วโมง จากแต่ก่อนที่อาจจะต้องนอนรอให้ง่วงเป็นเวลานาน การไปออกกำลังกายยามเช้า ช่วยให้ร่างกายเราได้รับแสงแดดตามเวลาที่ควรจะเป็น ช่วยให้ร่างกายหลับได้ง่ายขึ้นในตอนกลางคืน

2. ช่วยให้หน้าตาดูอ่อนวัยกว่าเดิม
ข้อนี้หลาย ๆ คนน่าจะชอบการปั่นจักรยาน ช่วยให้ร่างกายเราลำเลียงออกซิเจน และสารอาหารได้ดีขึ้น และช่วยขับถ่ายสารพิษในร่างกายได้มีประสิทธิภาพขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกาย อย่างการปั่นจักรยาน จะช่วยกระตุ้นการผลิตสารคอลลาเจน ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า จึงไม่แปลกว่าทำไมคนที่ปั่นจักรยานเป็นประจำจึงหน้าตาอิ่มเอิบและผิวพรรณสดใส (แต่อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกรอบหล่ะ)

3. ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากมหาวิทยาลัย Bristol ยืนยันว่าการปั่นจักรยานจะช่วยกระตุ้นให้อาหารไหลผ่านลำไส้ได้เร็วกว่า ซึ่งช่วยลดการดูดซับน้ำในลำไส้ใหญ่ หมายความว่าก้อนอุจจาระก็จะไม่แห้ง ทำให้เราถ่ายได้คล่องขึ้น นอกจากนี้การปั่นจักรยานช่วยกระตุ้นการหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเพิ่มกำลังในการบีบรัดตัวของลำไส้ ช่วยให้เราไม่รู้สึกอึดอัดหลังการทานอาหาร และป้องกันโรคมะเร็งสำไล้ได้อีกด้วย

4. เพิ่มประสิทธิภาพสมอง
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลินอยส์ พบว่าคนที่ปั่นจักรยานเป็นประจำ ทำคะแนนการทดสอบสมองได้ดีกว่าปกติถึง 15% เพราะว่าการปั่นจักรยายช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองในส่วน Hippocampus เป็นส่วนที่ใช้บันทึกความจำ ซึ่งจะเสื่อมอย่างรวดเร็วหลังอายุ 30 ปีขึ้นไป ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี

5. สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น
เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าการอออกกำลังกายช่วยให้ระบบภูมิต้านทานของเราแข็งแรงขึ้น เชื้อโรคต่าง ๆ ก็มีผลกับเราได้น้อยลง รายงานสุขภาพจากอังกฤษบอกว่าคนที่ปั่นจักรยานอย่างน้อย 30 นาทีเป็นเวลาห้าวันต่อสัปดาห์มีโอกาสป่วยน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลยกว่าเท่าตัว

6. อายุยืนยาว
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัย King's Collegel London ทดสอบฝาแฝดกว่า 2,400 คู่ พบว่าแฝดคนที่ปั่นจักรยานแค่ 45 นาทีสามครั้งต่อสัปดาห์ มีอายุยืนยาวกว่าคู่แฝดที่ไม่ออกกกำลังกายกว่า 9 ปีโดยเฉลี่ย สาเหตุหลัก ๆ ที่ช่วยให้อายุยืนขึ้นก็เพราะการปั่นจักรยานพัฒนาระบบเลือดและระบบหายใจ ช่วยลดโรคความดัน โรคอ้วน มะเร็งประเภทต่าง ๆ โดยรวมร่างกายจะมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูรักษาตัวเองมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้กว่า 50%

7. พิทักษ์โลก
พื้นทีในการจอดรถยนต์หนึ่งคัน สมมารถใช้จอดจักรยานได้กว่า 20 คัน เราใช้วัตถุดิบและสารเคมีต่าง ๆ และพลังงานในการผลิตจักรยานหนึ่งคันน้อยกว่าการผลิตรถยนจ์ถึงห้าเท่าแน่นอน จักรยานไม่ก่อมลพิษ การปั่นจักรยานยังประหยัดพลังงานมากกว่าการเดินถึงสามเท่าในระยะทางเท่า ๆ กัน ผู้ผลิตรถยนต์สมัยนี้ชอบอวด "กิโล/ลิตร" ว่ารถตัวเองใช้น้ำมันกี่ลิตรต่อระยะทางหนึ่งกิโล เจอจักรยานแล้วจะหนาว เพราะถ้าลองเปรียบเทียบพลังงานที่เราใช้ในการปั่นจักรยานแปลออกมาให้เหมือนรถยนต์ จะได้ประมาณ 4,705 กิโล/ลิตร

8. เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ข้อนี้เห็นหลายคนในเว็บบอร์ด Thaimtb คอนเฟริ์มว่า การปั่นจักรยานช่วยพัฒนาระบบหมุนเวียนเลือด ซึ่งผลข้างเคยง คือเพิ่มความต้องการทางเพศ ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐ พบว่านักกีฬาจักรยานมีสมรรถภาพทางเพศเหมือนกับคนที่อายุอ่อนกว่า 4-5 ปี ในขณะที่นักกำฬาหญิงเลื่อนอาการวัยหมดประจำเดือน (menopause) ออกไปได้กว่า 5 ปี ผลการวิจัยจากฮาวอร์ดยังแถมให้อีกว่าผู้ชายที่อายุมากกว่า 50 ปีที่ปั่นจักรยานเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงอาการ "นกเขาไม่ขัน" ได้กว่า 30%

9. ลูกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ออกกำลังกายเป็นประจำ จะฟื้นฟูร่างกายหลังการคลอดได้ดีกว่าแม่ที่ไม่ออกกำลังกาย แถมลูกในท้องจะสามารถพัฒนาระบบประสาทได้ดีกว่าปกติอีกด้วย

10. ทำงานได้ดีขึ้น
การศึกษาจากมหาวิทยลัย Bristol พบว่าพนักงานที่ออกกำลังกายก่อนเข้า หรือหลังทำงาน มักจะทำงานได้มีประสิทธิภาพดีกว่าคนปกติที่ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความมุ่งมั่นในการทำงาน และช่วยให้รับความเครียดจากการทำงานได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้พนักงานที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักจะใช้เวลาพักน้อยกว่าคนอื่น ทำงานเสร็จได้ตามกำหนด และมีอัธยาศัยดีกว่าคนอื่น ๆ ด้วย

11. ลดความอ้วน
เป็นที่ทราบกันดีว่าการปั่นจักรยานช่วยเพิ่มอัตรการเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย แต่มันไม่ได้เผาผลาญแค่เฉพาะตอนที่เราปั่น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ร่างกายของคนที่ปั่นจักรยานเป็นประจำจะมีสภาวะ "After Burner" หรือเผาผลาญไขมันส่วนเกินต่อเนื่อง หลังจากลงจากจักรยานแล้วต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งโดยรวมแล้วการเผาผลาญหลังการปั่นอาจจะมากกว่าระหว่างปั่นอีกด้วย
นักปั่นที่ซ้อมแบบ interval (สลับการออกแรงปั่นช้า + เร็วตามระยะเวลาที่กำหนด) สามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าคนที่ปั่นด้วยความเร็วคงที่กว่า 3.5 เท่าอีกด้วย

12. มีเพื่อนมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น
สังคมการปั่นจักรยานในเมืองไทยค่อนข้างจะอบอุ่นและเป็นมิตร ใครเห็นกันปั่นจักรยานก็มักจะกวักมือทักทายกันเสมอ ๆ และหากใครมีปัญหาอะไรก็มักจะช่วยเหลือกัน แข่งความรู้กันอยู่แล้ว การเข้ากลุ่มปุ่นกับคนอื่น ๆ นอกจากจะช่วยให้เรามีกำลังใจและมีเหตุผลออกมาปั่นมากขึ้นแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพเราในทางอ้อมด้วย ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Howard พบว่าคนที่ไม่มีเพื่อนและไม่เข้าสังคมมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยมากกว่าคนสูบบุหรี่และควนที่เป็นโรคอ้วนเสียอีก อย่างที่เขาว่ากันว่า สภาพจิตใจเราบ่งบอกถึงสภาพร่างกาย

13. ลดอาการเหนื่อยล้าและความเครียด
บางครั้งที่เราเหนื่อยล้า หม่นหมอง ไม่อยากทำอะไร การออกไปปั่นจักรยานรับอากาศบริสุทธิ์จะช่วยให้เราสดชื่นขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ เชื่อว่าหลาย ๆคนคงเจออาการแบบนี้ ตกเย็นเบื่อ หม่นหมอง ไม่อยากไปไหน แต่พอคว้าจักรยานออกไปปั่นกลับรู้สึกดีขึ้น และคลายเครียดความกังวลไปได้หมด งานวิจัยสุขภาพในสหรัฐหลาย ๆ ชิ้นยืนยันว่าการออกกำลังกายช่วยลดความหดหู่และความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี

คนเรา......ต่อให้มีความรู้มากมาย

คนเรา......ต่อให้มีความรู้มากมาย
แต่เป็นคนเห็นแก่ตัว
ไม่มีสามัญสำนึกต่อสังคม
"ปริญญา" กี่ใบก็ไม่มีความหมาย

ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า

เมื่อวันนี้........
เรามีโอกาสมีชีวิตอยู่
ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า
โดยการ......ปล่อยวาง
เรื่องที่ผิดพลาดไปแล้วในอดีต
และทำวันนี้ให้ดีที่สุด........

"ทำดี" ไม่ใช่เพื่ออวดใคร

"ทำดี" ไว้ให้ตัวเองภูมิใจ
ไม่ใช่ทำไปเพื่อ....
อวดใครๆ ว่าฉัน "ดี"

"ความรัก" ต้องเกิดขึ้นด้วยความถูกต้องและบริสุทธิ์ใจ

อ ย่ า ไ ด้ เ ป็ น มื อ ที่ ส า ม
เพื่อทำลายความงดงาม
ของความรัก................
อ ย่ า ไ ด้ ท อ ด ส ะ พ า น
เพื่อทำความรู้จักกับ
คู่รักของคนอื่น
"เ พ ร า ะ ค ว า ม รั ก"
ต้องเกิดขึ้นด้วย
ความถูกต้องและบริสุทธิ์ใจ
มิใช่ไปแย่งชิงใครเขามา
เพื่อครอบครอง..............

เคยเป็นไหม?

เ ค ย ไ ห ม.........
ให้กำลังใจเขาไปทั่ว
แต่พอเจอกับตัว
กลับหา "คนปลอบใจ" ไม่เจอ

เครดิต : เสี่ยวพเนจร

ยิ้มๆๆๆๆๆๆ

...........ยิ้ม...........
ให้กับชีวิตเราบ้าง
ปัญหาบางอย่างวันนี้ยังไม่ดี
วันพรุ่งนี้และวันข้างหน้า
"ของเรา" มันต้องดีขึ้น......

เครดิต : แล้วแต่?

เลือกเลย ! เมนูอาหารตามสั่งแบบเกือบจะคลีน กินนอกบ้านมื้อนี้ทานอะไรดี

อาหารคลีนตามสั่ง

          เมนูอาหารตามสั่งแบบไทย ๆ ก็เกือบเป็นอาหารคลีนได้ ถ้าสั่งเป็น ถึงจะไม่คลีน 100% แต่ก็พอแก้ขัดให้คนทานคลีนได้อยู่นะ


          หลายคนไม่ได้ทานอาหารคลีนแค่ในบ้านเท่านั้น แต่ยังพกอาหารคลีนไปทานข้างนอกด้วย ซึ่งถ้าวันไหนไม่มีเวลาทำอาหารคลีนทานเองแล้วต้องออกไปนอกบ้านก็น่าปวดหัวอยู่เหมือนกันนะคะว่าจะสั่งเมนูอะไรทานดี เพราะไม่ใช่ว่าทุกร้านจะมีอาหารคลีนให้ทานซะเมื่อไร จะทานข้าวกับไข่ต้มอย่างเดียวก็ใช่เรื่อง เอาเป็นว่าใครที่ยังคิดไม่ออก กระปุกดอทคอมก็มีเมนูดี ๆ มาไกด์ให้ แต่ต้องบอกก่อนว่าเมนูเหล่านี้ไม่ใช่อาหารคลีน 100% แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คนที่พยายามทานคลีนมีไอเดียในการเลือกทานอาหารที่ดีกับสุขภาพมากขึ้นเมื่ออยู่นอกบ้าน
อาหารคลีนตามสั่ง
          เมนูยำ

          ถ้าอยากให้เมนูยำมื้อนี้คลีนสักหน่อย แนะนำให้ทานยำผัก เช่น ยำเห็ด ยำผักรวม ผักต่าง ๆ หรือถ้าอยากได้โปรตีนเพิ่มอาจสั่งยำไข่ต้ม หรือยำซีฟู้ดก็ได้ค่ะ แต่ให้เลี่ยงอาหารแปรรูปอย่างไส้กรอก มาม่า หมูยอ แฮม ปูอัด ลูกชิ้น และอย่าปรุงรสจัดเกินไป ไม่ว่าจะเปรี้ยวจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด 

อาหารคลีนตามสั่ง

          ต้มจืด

          สั่งต้มจืดอย่างแกงจืดเต้าหู้ไข่ แกงจืดผักกาดขาว แกงจืดบวบ ต้มจืดตำลึง แกงจืดไข่น้ำ มาทานกับข้าวกล้อง หรือถ้าไม่มีข้าวกล้องก็ทานกับข้าวสวยในปริมาณที่ลดลงก็ได้ แต่เน้นทานผักให้มากขึ้น แค่นี้ก็ได้อาหารเกือบจะคลีนแล้ว แต่อย่าลืมย้ำกับแม่ค้าด้วยว่า อย่าใส่น้ำมันกระเทียมเจียวลงในแกงจืดนะจ๊ะ

อาหารคลีนตามสั่ง

          แกงเลียง

นอกจากจะเป็นอาหารคลีนแบบไทยแล้ว ผักต่าง ๆ ที่ใส่ในแกงเลียง ทั้งบวบ ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน ใบแมงลัก ฯลฯ ยังมีประโยชน์กับสุขภาพด้วย และถ้าอยากได้โปรตีนจะสั่งเป็นแกงเลียงกุ้งสดก็ไม่ผิดกติกา

อาหารคลีนตามสั่ง

          สุกี้น้ำ
          วุ้นเส้นกับผักที่ใส่ในสุกี้ก็จัดเป็นอาหารคลีนที่หาทานนอกบ้านได้ไม่ยากเช่นกัน แต่ข้อสำคัญอยู่ที่น้ำจิ้มค่ะ ถ้าไม่ใส่น้ำจิ้มเลยจะดีที่สุด เพราะน้ำจิ้มสุกี้มีโซเดียมสูงไม่ใช่อาหารคลีนแน่ ๆ แต่ถ้าทานเปล่า ๆ ไม่ได้จริง ๆ ก็อนุโลมให้ใส่น้ำจิ้มได้เล็กน้อย พอให้ทานได้ และอีกข้อที่ต้องย้ำก็คือให้สั่งเป็นสุกี้น้ำ เพราะถ้าสั่งสุกี้แห้งจะต้องผ่านการผัดเส้น แบบนี้คือไม่คลีนล่ะ

อาหารคลีนตามสั่ง

          
ข้าวต้ม หรือโจ๊ก


          อาหารเช้าอย่างข้าวต้มปลา ข้าวต้มไก่ ก็พอเป็นอาหารคลีนได้เหมือนกัน แต่ขอให้ปรุงน้อย ๆ และอย่าลืมว่าต้องไม่ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว ส่วนโจ๊กก็อย่าทานคู่กับปาท่องโก๋นะคะ

อาหารคลีนตามสั่ง

          ข้าวมันไก่

          อย่าเพิ่งตกใจที่แนะนำว่าข้าวมันไก่เป็นเมนูอาหารคลีน เพราะข้าวมันไก่จานนี้จะคลีนได้ก็ต้องสั่งให้ละเอียดนิดนึง คือเลือกทานข้าวธรรมดาแทนข้าวมัน ส่วนเนื้อก็ให้เอาแต่เนื้อไก่ต้มล้วน ๆ ไม่เอาหนัง ถ้าจะให้คลีนขึ้นมาหน่อยก็ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม และไม่ทานน้ำซุปค่ะ แต่ถ้าใครไม่ได้สุดโต่งอะไรขนาดนั้น จะจิ้มน้ำจิ้มเล็กน้อย หรือซดน้ำซุปให้คล่องคอหน่อยก็ตามสบายเลยจ้า

อาหารคลีนตามสั่ง

          
สเต็ก
          เลือกทานสเต็กปลาย่าง หรือสเต็กไก่ แต่เลาะหนังออก จะดูคลีนที่สุดค่ะ หรือถ้าไม่มีเนื้อปลากับไก่ อาจเลือกทานเนื้อหมูก็ได้ แต่ต้องเลือกสันในหมู เพราะส่วนนี้จะไม่ติดมัน ทานคู่กับผักต่าง ๆ เพิ่มความคลีนลงไปอีกนิด พยายามอย่าใส่เครื่องปรุงอะไรเพิ่มมาก ส่วนเฟรนช์ฟรายส์ มันฝรั่งทอด หัวหอมทอด ขนมปังปิ้ง ให้เซย์โนไปเลย

อาหารคลีนตามสั่ง

          เกาเหลา          จะสั่งเกาเหลาให้คลีนต้องสั่งเกาเหลาแบบไม่ใส่ลูกชิ้น แต่ใส่ผักเยอะ ๆ จะใส่เนื้อสัตว์ลงไปด้วยก็ไม่ว่า และต้องงดน้ำมันกระเทียมเจียวเช่นกัน

อาหารคลีนตามสั่ง

          สลัดผักน้ำใสคำว่าสลัดผักก็ดูเหมือนจะเป็นอาหารคลีนอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าใส่น้ำสลัดข้นนี่จบเลย เพราะน้ำสลัดครีมข้นไม่ใช่อาหารคลีน รวมถึงน้ำสลัดงาญี่ปุ่นก็ไม่คลีนเหมือนกัน ถ้าอยากทานสลัดให้คลีนของจริง ควรเลือกทานกับน้ำสลัดแบบใส หรือบัลซามิกก็พอไหว

อาหารคลีนตามสั่ง
  
           ปลาเผา          ถ้าทานปลาเผา (ไม่ใส่เกลือ) กับผักสดแบบนี้จัดว่าคลีน แต่ต้องระวังน้ำจิ้มไว้หน่อย เพราะบางร้านใส่ผงชูรสเยอะ แต่ถ้าอยากทานน้ำจิ้มจริง ๆ ก็ให้ทานแต่น้อยค่ะ

อาหารคลีนตามสั่ง

         
น้ำพริก
          เลือกทานน้ำพริกเห็ด น้ำพริกมะเขือ น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แบบไม่ต้องเผ็ดจัดจ้าน จะทานกับผักสด ผักต้ม หรือผักนึ่ง ก็อิ่มแบบคลีน ๆ ไปอีกมื้อ ส่วนน้ำพริกกะปิ ไม่ถือเป็นอาหารคลีน เพราะกะปิเป็นของหมักดอง คนกินคลีนคงต้องเลี่ยงไปก่อน 

อาหารคลีนตามสั่ง

          ส้มตำ ไก่ย่าง

          เมนูแซ่บของคนไทยก็จัดเป็นอาหารคลีนได้ ถ้าสั่งส้มตำไทย ไม่ต้องใส่ปู ปลาร้า ไข่เค็ม ตอนปรุงรสก็ใส่น้ำตาลน้อย ๆ น้ำปลาน้อย ๆ ไม่ใส่ผงชูรส จะทานคู่กับไก่ย่างก็ย่อมได้ แต่ต้องเลือกทานอกไก่ แล้วลอกหนังออกด้วย

          เมนูนี้คนทานคลีนขอบาย !
อาหารคลีนตามสั่ง

          - ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ถ้าอยากทานไข่ให้เลือกทานไข่ต้ม หรือไข่ตุ๋นแทน
          - เนื้อสัตว์ติดมัน
          - ของทอดทั้งหลาย
          - อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน หมูยอ แฮม ปูอัด ลูกชิ้น หมูหย็อง หมูแผ่น หมูกรอบ แหนม เนื้อแปรรูป อาหารหมักดอง  
          - อาหารสังเคราะห์ เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง ไอศกรีมปรุงแต่งรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ครีมเทียม เนยเทียม
          - น้ำซุป เพราะในน้ำซุปมักใส่ผงชูรส หรือซุปก้อนลงไป
          - อาหารและเครื่องดื่มที่ใส่น้ำเชื่อม เช่น น้ำผลไม้ปั่น ขนมหวาน
          - ขนมแป้งขัดขาว เช่น โดนัท คุกกี้ เบเกอรี่

          เมนูนี้คนทานคลีนสั่งได้ !

          - ทานข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี แทนข้าวขาว หรือถ้าหาทานไม่ได้ ให้ทานข้าวขาวในปริมาณที่น้อยลง
          - ผักเยอะ ๆ
          - เนื้อสัตว์ทานได้ แต่เน้นไขมันต่ำ ไม่ติดมัน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา 
          - เน้นอาหารที่ต้มกับนึ่งเป็นหลัก แต่หากจะทานอาหารจานผัดต้องใส่น้ำมันน้อย ๆ 
          - รสชาติไม่จัด เน้นรสจืด รสอ่อน ๆ พยายามไม่ปรุงน้ำปลา น้ำตาล เกลือ
          - น้ำเปล่าดีที่สุด เลี่ยงดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาเขียว

          ย้ำว่าเมนูเหล่านี้เอาใจคนพยายามทานคลีนโดยเฉพาะนะคะ เพราะบางคนอยากทานคลีนนอกบ้านบ้างแต่ไม่รู้จะสั่งอะไรทานดี ส่วนคนที่ไม่ได้ทานคลีนหรือทานคลีนพอประมาณแบบไม่ซีเรียสอะไรมากนักก็สามารถสั่งทานตามปกติตามแต่สบายใจเลย หรือจะสั่งแบบนี้ทานสลับกันดูบ้างก็ได้สุขภาพดี ๆ เป็นของแถมเหมือนกัน

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

#Lipstick Guide ดีงามพระรามแปด!!! #ทาวนไปสิคะ!

#Lipstick Guide ดีงามพระรามแปด!!! #ทาวนไปสิคะ!

ยำไข่เค็ม


คุณๆ ท่านๆ ที่ไม่รู้จะทำอะไรดีกับไข่เค็มธรรมดาๆ ขอเสนอ "ยำไข่เค็ม" เครื่องปรุงและวิธีการทำไม่ยุ่งยาก นอกจากจะได้คุณค่ามากมายจากไข่แล้ว ยังอุดมด้วยสรรพคุณทางยาจากเครื่องปรุงสมุนไพรนานาชนิด อาทิ มะนาว หอม พริกขี้หนู ฯลฯ อาทิ ช่วยบรรเทาอาการหวัด ลดโคเลสเตอรอล ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ดีต่อระบบไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการไอเสมหะ แก้หวัดคัดจมูก มากด้วยเส้นใยอาหารจากพืชผักช่วยเรื่องระบบขับถ่าย มะเร็งลำไส้ใหญ่ ฯลฯ

(เครดิตภาพ : Cheesier, มาเรีย ณ ไกลบ้าน, ไม่กัดค่ะ, benz47, drunkart, littlehouse)

อย่ามองปัญหา....ให้เป็นอุปสรรค

อย่ามอง "ปั ญ ห า"
ที่ผ่านเข้ามาให้เป็น
"อุ ป ส ร ร ค".....
แต่จงมองให้เป็น
"แ ร ง ผ ลั ก ดั น"
เพื่อไปถึงความสำเร็จ
ในวันข้างหน้า

กาแฟ....แม้จะมีรสขม แต่ก็ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

"กาแฟ" แม้จะมีรสขม
....แต่ก็ทำให้เราเข้มแข็ง....
เช่นเดียวกันกับ "การใช้ชีวิต"
ที่มีความผิดหวัง ที่เกิดความพลาดพลั้ง
.......แต่มันก็ทำให้เรา........
"เ ข้ ม แ ข็ ง แ ล ะไ ด้ เ รี ย น รู้"

ยังคิดถึงอยู่นะ....

บางคนเลิกกันไปเป็นปีๆ...
ทุกวันนี้.....ยังมีเรื่องราวให้เราได้คิดถึงเขาอยู่เลย
มันอาจจะเป็นเพราะความผูกพันครั้งนั้น..
มันฝังใจ...สำหรับเรามั้ง..
เราถึงพร่ำเพ้อ...มาถึงวันนี้..

แต่ตอนนี้....ก็ดีขึ้นเยอะล่ะ
มันเหลือเพียงแต่ความทรงจำ...
ทุกสิ่งทุกอย่าง...เราเริ่มทำใจยอมรับมันเกือบได้ทั้งหมดแล้ว.....
เพียงแต่บางครั้ง... บางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวกับเขา
มันอาจจะสะท้อน...ให้เราได้เห็นบางครั้งคราว
แต่ก็ไม่มีไรมากหรอก...มันก็เป็นเรื่องธรรมดา..
ที่เราจะมีเขาแว๊บเข้ามาในใจบ้าง...

คนเคยรักกัน...เคยความวันเวลาร่วมกัน
ทั้งชีวิต.....เราก็ไม่สามารถลบชื่อ...ลบเรื่องราวของเขาออกทั้งหมดได้หรอก
มีแต่เราจะอยู่กับเรื่องราวนี้... ใช้ชีวิตไปตามปกติ
จบไปแล้ว..ก็แล้วไป. เดินไปข้างหน้าต่อไป.....

เราไม่รู้...ว่าวันพรุ่งนี้และต่อๆไป...จะไปเจออะไรที่มันหนักหนากว่านี้อีกไหม
ทำใจ...หาสิ่งดีๆเข้าหาตัวเองบ้าง..
ชีวิต..ไม่พบก็ต้องจาก ท่องไว้.. มันมีเท่านี้ล่ะ :)

Once in your life ( ครั้งหนึ่งในชีวิต )

คนที่แพ้....ก็ต้องกลับมาแคร์หัวใจตัวเอง

เขาไม่รัก...ก็พยามรักตัวเองให้ได้เนอะ .
ปลอบใจตัวเองเบาๆว่าไม่เป็นไร...เขาไม่รักไม่ใส่ใจ ก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขา
....
ในเมื่อเขาคิดว่าเขาทำถูก...แล้วคนที่ไม่สำคัญอย่างเราจะไปห้ามอะไรเขาได้
เจ็บก็ร้องไห้...
คิดถึงก็กอดหมอน..
เดี่ยววันนึง...อะไรๆมันก็คงจะดีขึ้นเอง

Once in your life ( ครั้งหนึ่งในชีวิต )

กาฝากชีวิต

ที่บ้านผมมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ผมรักมาก แต่ต้นไม้ต้นนี้มักเจอกับศัตรูคุกคามอยู่บ่อยครั้ง ศัตรูที่ผมพูดนี้ไม่ใช่หนอนหรือแมลงหรือโรค แต่มันคือ ...