คำว่า "ของฟรี" มักจะทำให้คนเรารู้สึกดีได้เสมอ
บางครั้งก็ถูกโยงไปถึงคำว่าโชคดีได้อีกด้วย
เพราะถ้าได้รับของฟรีพลันก็คิดว่าตัวเองมีโชค
หลายคนจึงรีบคว้าไว้โดยเร็ว
ไม่ทันคิดว่ามันอาจจะมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่
แต่ของฟรีในโลกนี้มีจริงหน่ะหรือ
ยิ่งถ้าเป็นในสังคมปัจจะบันที่ต่างทำมาค้ากำไร
กันแทบทุกอย่าง การจะหาของฟรีที่ดีจริงนั้น
จึงยากเต็มที.....
บางคน...อาจถูกยัดเยียดของฟรี (ของเหลือ) ให้
ก็รับด้วยความเกรงใจ แม้แต่เรื่องการงาน
บางทีก็รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ชอบงานที่ทำอยู่เลย
แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงออกไปหางานใหม่
ทั้งที่มีโอกาส ได้แต่ทนทำไปเรื่อย ๆ
แต่ในใจก็ไม่มีความสุขเอาเสียเลย
สุดท้ายก็หมดกำลังใจที่จะทำงานดี ๆ
ออกมาจะไม่ดีกว่าหรือ......
ถ้าจะหางานที่ใช่ เพราะอย่างน้อย
ก็เพื่อความสบายใจของตัวเอง
แม้ต้องเหนื่อยในตอนแรกก็ตาม
ในความเป็นจริง
คนเราทุกวันนี้ นอกจากจะอยากได้อะไรมาแบบง่าย ๆ
ก็ยังไม่คิดที่จะต่อสู้ดิ้นรนอะไรมากมาย
ไม่มีความมานะอุตสาหะที่มากพอ
เพื่อจะให้ได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง
แม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการเลย
แต่เมื่อเห็นว่าเป็น "ของฟรี" ก็พร้อมที่จะรับไว้ทันที
แต่ในทางตรงขัาม.......
แม้รู้อยู่ว่าตัวเองปรารถนาอยากได้สิ่งไหน
แม้เป็นความต้องการที่ตรงกับใจมากที่สุด
แต่พอเห็นว่า กว่าจะได้มันมานั้น
ต้องเหนื่อยยากลำบากขนาดไหน
เป็นเพียงแค่ความคิดที่ยังไม่ได้ลงมือทำ
ก็พลันทิ้งมันไว้ข้างทางไม่กล้าสานฝันต่อ
กลายเป็นเรื่องน่าเสียดายจริง ๆ
สำหรับคนที่ทิ้งความฝันเช่นนี้ไป
เป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างยิ่ง
ที่นับวัน จำนวนคนที่ยอมเหนื่อย
เพื่อที่จะได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของความสำเร็จ
กำลังลดลงเรื่อย ๆ อย่างน่าใจหาย
ยังไม่นับรวมถึงคนที่ทิ้งความฝันระหว่างทางอีกมากมาย
ซึ่งบางทีแค่เพียงอดทนอีกนิดเดียว
ก็อาจจะถึงเส้นชัยแล้ว........
อย่างไรก็ตาม....
เราเองต้องถามใจตัวเองให้ดีว่า
การที่เราจะเหนื่อยกับอะไรสักอย่างนั้น
เหนื่อยเพื่ออะไร?
ที่สุดแล้วมันคุ้มค่ากันหรือเปล่า?
แล้วเทียบกับสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดายหล่ะ
เป็นความต้องการจริง ๆ ของเราแล้วหรือ?
การที่เราไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย
กับการแลกมาด้วยความยากลำบาก
อย่างไหนที่มีคุณค่ามากกว่ากัน?
ไม่ต้อง...ตอบคำถามนี้กับคนอื่นให้มากความ
เพราะแต่ละคนคงจะถามไม่เหมือนกัน
ทั้งหมดนี้มันเป็นโจทย์เพื่อให้ "เรา" ตอบใจตัวเองว่า
"จะยอมเหนื่อยเพื่อสิ่งที่ใช่จริง ๆ
หรือจะทนทรมานใจกับสิ่งที่ฝืน
ก็เท่านั้นเอง........."
บางครั้งก็ถูกโยงไปถึงคำว่าโชคดีได้อีกด้วย
เพราะถ้าได้รับของฟรีพลันก็คิดว่าตัวเองมีโชค
หลายคนจึงรีบคว้าไว้โดยเร็ว
ไม่ทันคิดว่ามันอาจจะมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่
แต่ของฟรีในโลกนี้มีจริงหน่ะหรือ
ยิ่งถ้าเป็นในสังคมปัจจะบันที่ต่างทำมาค้ากำไร
กันแทบทุกอย่าง การจะหาของฟรีที่ดีจริงนั้น
จึงยากเต็มที.....
บางคน...อาจถูกยัดเยียดของฟรี (ของเหลือ) ให้
ก็รับด้วยความเกรงใจ แม้แต่เรื่องการงาน
บางทีก็รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ชอบงานที่ทำอยู่เลย
แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงออกไปหางานใหม่
ทั้งที่มีโอกาส ได้แต่ทนทำไปเรื่อย ๆ
แต่ในใจก็ไม่มีความสุขเอาเสียเลย
สุดท้ายก็หมดกำลังใจที่จะทำงานดี ๆ
ออกมาจะไม่ดีกว่าหรือ......
ถ้าจะหางานที่ใช่ เพราะอย่างน้อย
ก็เพื่อความสบายใจของตัวเอง
แม้ต้องเหนื่อยในตอนแรกก็ตาม
ในความเป็นจริง
คนเราทุกวันนี้ นอกจากจะอยากได้อะไรมาแบบง่าย ๆ
ก็ยังไม่คิดที่จะต่อสู้ดิ้นรนอะไรมากมาย
ไม่มีความมานะอุตสาหะที่มากพอ
เพื่อจะให้ได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง
แม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการเลย
แต่เมื่อเห็นว่าเป็น "ของฟรี" ก็พร้อมที่จะรับไว้ทันที
แต่ในทางตรงขัาม.......
แม้รู้อยู่ว่าตัวเองปรารถนาอยากได้สิ่งไหน
แม้เป็นความต้องการที่ตรงกับใจมากที่สุด
แต่พอเห็นว่า กว่าจะได้มันมานั้น
ต้องเหนื่อยยากลำบากขนาดไหน
เป็นเพียงแค่ความคิดที่ยังไม่ได้ลงมือทำ
ก็พลันทิ้งมันไว้ข้างทางไม่กล้าสานฝันต่อ
กลายเป็นเรื่องน่าเสียดายจริง ๆ
สำหรับคนที่ทิ้งความฝันเช่นนี้ไป
เป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างยิ่ง
ที่นับวัน จำนวนคนที่ยอมเหนื่อย
เพื่อที่จะได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของความสำเร็จ
กำลังลดลงเรื่อย ๆ อย่างน่าใจหาย
ยังไม่นับรวมถึงคนที่ทิ้งความฝันระหว่างทางอีกมากมาย
ซึ่งบางทีแค่เพียงอดทนอีกนิดเดียว
ก็อาจจะถึงเส้นชัยแล้ว........
อย่างไรก็ตาม....
เราเองต้องถามใจตัวเองให้ดีว่า
การที่เราจะเหนื่อยกับอะไรสักอย่างนั้น
เหนื่อยเพื่ออะไร?
ที่สุดแล้วมันคุ้มค่ากันหรือเปล่า?
แล้วเทียบกับสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดายหล่ะ
เป็นความต้องการจริง ๆ ของเราแล้วหรือ?
การที่เราไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย
กับการแลกมาด้วยความยากลำบาก
อย่างไหนที่มีคุณค่ามากกว่ากัน?
ไม่ต้อง...ตอบคำถามนี้กับคนอื่นให้มากความ
เพราะแต่ละคนคงจะถามไม่เหมือนกัน
ทั้งหมดนี้มันเป็นโจทย์เพื่อให้ "เรา" ตอบใจตัวเองว่า
"จะยอมเหนื่อยเพื่อสิ่งที่ใช่จริง ๆ
หรือจะทนทรมานใจกับสิ่งที่ฝืน
ก็เท่านั้นเอง........."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น