เราทุกคนต่างต้องการการผ่อนคลายใช่หรือไม่? อาจฟังดูง่ายหากพูดแทนที่จะลงมือทำ คุณต้องการวิธีใหม่ๆ ในการผ่อนคลาย “คุณจะไม่สามารถเป็นคนที่มีสุขภาพดีได้หากยังคงมีความเครียด และจิตใจว้าวุ่นเกินไป” คำพูดของ มาร์ติน เมโดว์ เจ้าของหนังสือ “How to Relax: Stop Being Busy, Take a Break and Get Better Results While Doing Less” เทคนิคในการผ่อนคลายความเครียดทั้ง 8 วิธีนี้จะเป็นการพัฒนาไปไกลกว่าที่คุณคุ้นเคย เช่น การนวด โยคะ และชาเขียว
1. สวมใส่เสื้อผ้าโทนสีอบอุ่น
เฉดสีสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ แต่คุณต้องค้นหาตัวเองให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก โดย Davidji นักเขียนหนังสือ “Destressifying: The Real-World Guide to Personal Empowerment, Lasting Fulfillment, and Peace of Mind” หากคุณเป็นมนุษย์ประเภท A สีโทนเย็นอย่าง ฟ้า และเขียวจะทำให้คุณรู้สึกสงบ Davidji กล่าวว่า สิ่งของต่างๆที่มีสีโทนเย็นจะทำให้เรามีสมาธิและสงบขึ้น หากคุณเป็นคนประเภทที่สบายๆ ง่ายๆ ชิลล์ๆ แล้วละก็ สีจำพวกเอิร์ธโทนและพาสเทลเหมาะสมกับคุณที่สุด ลองพาตนเองเข้าไปหาสีสันเหล่านี้ ลองตกแต่งห้องนอนและห้องทำงานไปในโทนสีเดียวกัน หรือจะลองสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีสันเรียบง่ายในวันที่คุณรู้สึกเครียดๆ ก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว
เฉดสีสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ แต่คุณต้องค้นหาตัวเองให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก โดย Davidji นักเขียนหนังสือ “Destressifying: The Real-World Guide to Personal Empowerment, Lasting Fulfillment, and Peace of Mind” หากคุณเป็นมนุษย์ประเภท A สีโทนเย็นอย่าง ฟ้า และเขียวจะทำให้คุณรู้สึกสงบ Davidji กล่าวว่า สิ่งของต่างๆที่มีสีโทนเย็นจะทำให้เรามีสมาธิและสงบขึ้น หากคุณเป็นคนประเภทที่สบายๆ ง่ายๆ ชิลล์ๆ แล้วละก็ สีจำพวกเอิร์ธโทนและพาสเทลเหมาะสมกับคุณที่สุด ลองพาตนเองเข้าไปหาสีสันเหล่านี้ ลองตกแต่งห้องนอนและห้องทำงานไปในโทนสีเดียวกัน หรือจะลองสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีสันเรียบง่ายในวันที่คุณรู้สึกเครียดๆ ก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว
2. ลบเฟซบุ๊กออกจากมือถือซะ
อาจจะฟังดูยากสำหรับเหล่าโซเชียลเลิฟเวอร์ แต่มันสามารถช่วยได้จริงๆ เทคโนโลยีคือส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดและความกังวล เมโดว์ได้กล่าวว่า “หากเราไม่มีสมาธิ มันก็ยากที่จะจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบัน ลองหันมาเพลิดเพลินกับเรื่องเล็กน้อย และทำใจให้เย็นลงบ้าง” การหาช่วงเวลาผ่อนคลายในแต่ละวันนั้น โทรศัพท์มือถือของคุณไม่ควรมีแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมันจะทำให้คุณมีเวลาชาร์จแบตเตอร์รี่ให้กับร่างกายมากขึ้น และไร้การรบกวน
อาจจะฟังดูยากสำหรับเหล่าโซเชียลเลิฟเวอร์ แต่มันสามารถช่วยได้จริงๆ เทคโนโลยีคือส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดและความกังวล เมโดว์ได้กล่าวว่า “หากเราไม่มีสมาธิ มันก็ยากที่จะจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบัน ลองหันมาเพลิดเพลินกับเรื่องเล็กน้อย และทำใจให้เย็นลงบ้าง” การหาช่วงเวลาผ่อนคลายในแต่ละวันนั้น โทรศัพท์มือถือของคุณไม่ควรมีแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมันจะทำให้คุณมีเวลาชาร์จแบตเตอร์รี่ให้กับร่างกายมากขึ้น และไร้การรบกวน
3. สร้างวิธีการผ่อนคลายในยามเช้า
การตื่นนอนในตอนเช้าจากเสียงนาฬิกาปลุกอาจจะเป็นวิธีที่ได้ผล แต่แท้จริงแล้วมันจะสร้างความเครียดให้กับคุณได้ ลองมาเริ่มต้นวันใหม่ในแต่ละวันด้วยวิธีผ่อนคลายซัก 10-15 นาทีดูบ้าง เมโดว์กล่าวว่า การนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ หรือลองดื่มด่ำกับความเงียบสงบ จะช่วยให้คุณได้เตรียมพร้อมกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และพร้อมในการเริ่มต้นกับมื้ออาหารไหนๆ
การตื่นนอนในตอนเช้าจากเสียงนาฬิกาปลุกอาจจะเป็นวิธีที่ได้ผล แต่แท้จริงแล้วมันจะสร้างความเครียดให้กับคุณได้ ลองมาเริ่มต้นวันใหม่ในแต่ละวันด้วยวิธีผ่อนคลายซัก 10-15 นาทีดูบ้าง เมโดว์กล่าวว่า การนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ หรือลองดื่มด่ำกับความเงียบสงบ จะช่วยให้คุณได้เตรียมพร้อมกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และพร้อมในการเริ่มต้นกับมื้ออาหารไหนๆ
4. กลิ่นอ่อนๆ ของส้ม หรือน้ำมันกุหลาบ
ถึงเวลาแล้วที่ลาเวนเดอร์จะต้องหลีกทาง เพราะในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกเครียดหรือประหม่า ลองหาผลส้มหรือน้ำมันกุหลาบมาเป็นตัวช่วยในการผ่อนคลาย กลิ่นอ่อนๆ ของน้ำมันหอมเหล่านี้ทำให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว จากผลการศึกษาของนิตยสาร Complementary Therapies in Medicine ได้แนะนำให้ผู้คนลองใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามควบคู่กับน้ำมันสกัดที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ อย่างเช่น Laura Mercier's Infusion de Rose Nourishing Oil or Thalgo's In the Cascade of Scents Relaxing Precious Oil หรือจะลองหยดน้ำมันหอมลงไปในโลชั่นทาผิวเพื่อสัมผัสถึงความผ่อนคลายในขณะที่กำลังบำรุงผิว
ถึงเวลาแล้วที่ลาเวนเดอร์จะต้องหลีกทาง เพราะในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกเครียดหรือประหม่า ลองหาผลส้มหรือน้ำมันกุหลาบมาเป็นตัวช่วยในการผ่อนคลาย กลิ่นอ่อนๆ ของน้ำมันหอมเหล่านี้ทำให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว จากผลการศึกษาของนิตยสาร Complementary Therapies in Medicine ได้แนะนำให้ผู้คนลองใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามควบคู่กับน้ำมันสกัดที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ อย่างเช่น Laura Mercier's Infusion de Rose Nourishing Oil or Thalgo's In the Cascade of Scents Relaxing Precious Oil หรือจะลองหยดน้ำมันหอมลงไปในโลชั่นทาผิวเพื่อสัมผัสถึงความผ่อนคลายในขณะที่กำลังบำรุงผิว
5. กำจัดความเครียดภายใน 16 วินาที
คุณมีเวลาซักสิบหกวินาทีมั้ย? แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างมหาศาล ในขั้นตอนแรก ลองจินตนาการถึงสิ่งที่รบกวนจิตใจคุณมาตลอดสัปดาห์ จากนั้นค่อยๆ หายใจเข้าและเพ่งสมาธิไปที่ลมหายใจของคุณว่ากำลังเคลื่อนตัวมาที่ช่องท้อง พักทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นจึงปล่อยให้ลมหายใจเคลื่อนที่มายังลำคอ ก่อนจะปล่อยลมออกทางจมูก ด้วยเทคนิค 16 วินาทีนี้จะทำให้คุณรู้สึกสงบและมีสมาธิมากขึ้น
คุณมีเวลาซักสิบหกวินาทีมั้ย? แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างมหาศาล ในขั้นตอนแรก ลองจินตนาการถึงสิ่งที่รบกวนจิตใจคุณมาตลอดสัปดาห์ จากนั้นค่อยๆ หายใจเข้าและเพ่งสมาธิไปที่ลมหายใจของคุณว่ากำลังเคลื่อนตัวมาที่ช่องท้อง พักทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นจึงปล่อยให้ลมหายใจเคลื่อนที่มายังลำคอ ก่อนจะปล่อยลมออกทางจมูก ด้วยเทคนิค 16 วินาทีนี้จะทำให้คุณรู้สึกสงบและมีสมาธิมากขึ้น
6. ออกไปแฮงค์เอาท์เพื่อนสนิท
คุณมักจะโทรหาเพื่อนที่สนิทที่สุดโดยสัญชาตญาณเมื่อคุณรู้สึกแย่ จากการศึกษาพัฒนาการจิตวิทยา การได้อยู่ห้อมล้อมกับเพื่อนๆ ที่รัก ช่วยลดความเครียดที่ผลิตจากฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งสร้างมาเพื่อให้สามารถรับมือกับสภาวะเครียดและความกดดันต่างๆ นั่นเอง
คุณมักจะโทรหาเพื่อนที่สนิทที่สุดโดยสัญชาตญาณเมื่อคุณรู้สึกแย่ จากการศึกษาพัฒนาการจิตวิทยา การได้อยู่ห้อมล้อมกับเพื่อนๆ ที่รัก ช่วยลดความเครียดที่ผลิตจากฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งสร้างมาเพื่อให้สามารถรับมือกับสภาวะเครียดและความกดดันต่างๆ นั่นเอง
7. ยิ้ม
ยิ้มเถอะไม่ว่าคุณจะอยากยิ้มหรือไม่ เพราะรอยยิ้มสามารถทำให้คุณหายเครียดและอารมณ์ดีขึ้นได้ จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ด้านจิตวิทยา ระบุว่าผู้ที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอจะสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจหลังจากเกิดสภาวะตึงเครียดได้ดีกว่าผู้ที่ชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือพูดง่ายๆก็คือ การยิ้มจะลดอัตราความเครียดที่ร่างกายสร้างขึ้นได้ และคุณยังจะกลายเป็นคนป๊อปปูลาร์จากการแจกยิ้มให้กับผู้คนรอบข้าง
ยิ้มเถอะไม่ว่าคุณจะอยากยิ้มหรือไม่ เพราะรอยยิ้มสามารถทำให้คุณหายเครียดและอารมณ์ดีขึ้นได้ จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ด้านจิตวิทยา ระบุว่าผู้ที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอจะสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจหลังจากเกิดสภาวะตึงเครียดได้ดีกว่าผู้ที่ชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือพูดง่ายๆก็คือ การยิ้มจะลดอัตราความเครียดที่ร่างกายสร้างขึ้นได้ และคุณยังจะกลายเป็นคนป๊อปปูลาร์จากการแจกยิ้มให้กับผู้คนรอบข้าง
8. ปลดปล่อยตนเอง
เราทุกคนมักจะมีสัญญาณเตือนอารมณ์เมื่อรู้สึกกังวลมากๆ ถึงแม้จะเป็นแค่อาการปวดท้องหรืออาการปวดที่หัวไหล่ เราอาจเผลอทำหรือพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนอย่างน้อยวันละครั้ง และนั่นก็จะก่อให้เกิดความเครียด แต่เมื่อใดที่คุณสัมผัสได้ถึงชนวนแห่งความเครียด ลองใช้วิธีแก้ปัญหาใน 5 วินาทีซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ Davidji ได้นำไปใช้สอนตำรวจ คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยการ หยุด สังเกตเหตุการณ์ และค่อยๆ เอนหลังเพื่อพิงพนักเก้าอี้ ภายใน 5 วินาทีนี้ระดับอารมณ์ของคุณจะค่อยๆ ผ่อนคลาย และจะทำให้คุณพูดหรือแสดงท่าทางได้อย่างมั่นใจ เทคนิคดังกล่าวนี้จะช่วยผ่อนคลายเส้นประสาทและปกป้องคุณจากการพูดหรือทำในสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเครียด
เราทุกคนมักจะมีสัญญาณเตือนอารมณ์เมื่อรู้สึกกังวลมากๆ ถึงแม้จะเป็นแค่อาการปวดท้องหรืออาการปวดที่หัวไหล่ เราอาจเผลอทำหรือพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนอย่างน้อยวันละครั้ง และนั่นก็จะก่อให้เกิดความเครียด แต่เมื่อใดที่คุณสัมผัสได้ถึงชนวนแห่งความเครียด ลองใช้วิธีแก้ปัญหาใน 5 วินาทีซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ Davidji ได้นำไปใช้สอนตำรวจ คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยการ หยุด สังเกตเหตุการณ์ และค่อยๆ เอนหลังเพื่อพิงพนักเก้าอี้ ภายใน 5 วินาทีนี้ระดับอารมณ์ของคุณจะค่อยๆ ผ่อนคลาย และจะทำให้คุณพูดหรือแสดงท่าทางได้อย่างมั่นใจ เทคนิคดังกล่าวนี้จะช่วยผ่อนคลายเส้นประสาทและปกป้องคุณจากการพูดหรือทำในสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเครียด
Source: fitnessmagazine.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น